อีกนานกว่าจะถึงวันเปิดตัว iOS 19 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ของ iPhone ในงาน WWDC ตอนนี้ก็ว่าด้วยข่าวลือกันไปก่อน โดย Jon Prosser เจ้าของช่องยูทูบ fpt. อ้างว่าเขาได้เห็นหน้าตาของ iOS 19 แล้ว ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาของแอป Camera สำหรับถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
Prosser บอกว่าเขาไม่สามารถเผยแพร่วิดีโอของจริงที่เป็นเวอร์ชันทดสอบได้ เลยสร้างวิดีโอจำลองหน้าตา Camera ใน iOS 19 นี้ให้ดู โดยการเปลี่ยนแปลงในแนวตั้งคือ แถบด้านล่างแสดงแค่คำว่า Photo กับ Video เมื่อเลือกแล้วจึงแสดงแถบ ให้เลือกประเภทรูปภาพหรือวิดีโอที่ต้องการ ส่วนแถบด้านบนเป็นการตั้งค่า Live Photo, แฟลช, ความละเอียดวิดีโอ, เฟรมเรต โดยรวมทำให้มีความรกน้อยลงเทียบกับปัจจุบัน
JetBrains ประกาศว่า IDE ทุกตัวในเครือจะเปลี่ยนมาใช้ UI แบบใหม่ เป็นค่าดีฟอลต์ ในอัพเดตเวอร์ชันถัดไป 2024.2
UI แบบใหม่ของ JetBrains เริ่มทดสอบมาตั้งแต่ปี 2021 ใช้หน้าตาแบบเรียบง่าย มินิมอล มีปุ่มน้อยๆ เน้นพื้นที่แสดงผลโค้ดเยอะๆ ตามแนวทางของ IDE ยุคใหม่ (พวก VS Code) นอกจากนี้ยังปรับแต่งชุดสี ไอคอน คอนทราสต์ ให้อ่านง่าย สบายตาขึ้นกว่าเดิม
JetBrains บอกว่าหลังจากทดสอบและแก้บั๊กมานานพอสมควร ตอนนี้ผู้ใช้งาน 87% สลับมาใช้ UI แบบใหม่แล้ว จึงตัดสินใจเปิดใช้ UI ใหม่เป็นค่าดีฟอลต์สักที
ก่อนหน้านี้ Neuralink บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีชิปเชื่อมต่อกับสมองมนุษย์ของ Elon Musk ได้ประกาศว่าประสบความสำเร็จ ในการทดลองฝังอุปกรณ์ในสมองมนุษย์คนแรก แล้ว ล่าสุด Neuralink จึงนำเสนอรายละเอียดการทำงานของระบบสั่งการคอมพิวเตอร์จากสมองมนุษย์จากผู้ทดสอบรายนี้
โดย Neuralink ได้ไลฟ์ผ่าน X เปิดเผยว่าผู้ทดสอบนี้คือ Nolan Arbaugh อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงมาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เขาบอกว่าหลังฝังชิปในสมองแล้ว สิ่งที่ต้องฝึกฝนคือการแยกการสั่งการสมองระหว่าง "แค่คิดเฉย ๆ" กับ "คิดเพื่อสั่งการ" โดยการสาธิตนั้นเป็นการควบคุมเคอร์เซอร์ในหน้าจอคอมพิวเตอร์
แอพในกลุ่ม Google Workspace คือ Docs, Sheets, Slides เตรียมปรับอินเทอร์เฟซใหม่เล็กน้อย โดยเพิ่มช่องค้นหาเครื่องมือ (tool-finding) เพื่อให้ผู้ใช้ค้นหาคำสั่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องไปงมหาเองในเมนู
จริงๆ แล้ว Google Docs, Sheets, Slides มีฟีเจอร์ค้นหาคำสั่งอยู่แล้ว แต่หลบอยู่ในเมนู Help > Search the menus ซึ่งไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก การเปลี่ยนแปลงนี้คือย้ายช่องค้นหาคำสั่งออกมาวางตรงซ้ายสุดของแถบเครื่องมือแทน ไม่เห็นก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลต่อผู้ใช้ทุกกลุ่ม ทั้งฝั่งคอนซูเมอร์และองค์กร โดยจะทยอยเปลี่ยนทีละกลุ่มตามธรรมเนียมของกูเกิล
ไมโครซอฟท์เพิ่มปุ่มเลือกโหมดการคุยกับ Bing พลัง AI ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดการคุยได้ 3 แบบคือ เน้นไปที่คำตอบ (Precise) หรืออยากให้ตอบยาว ๆ เพื่อหาไอเดีย (Creative) หรือเลือกแบบผสมผสาน (Balanced)
UI การเลือกโหมดคุยกับ AI ถือเป็นการทดลองว่า UI แบบใดที่เหมาะกับผู้ใช้งานกันแน่ เพราะผู้ใช้แต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่างกัน ก่อนหน้านี้ Bing ใช้วิธี "คาดเดา" ว่าผู้ใช้ชอบแบบไหน แต่ล่าสุดเปลี่ยนมาลองดูแบบให้ผู้ใช้เลือกเอาเองเลย
Spotify ปรับ UI ของหน้าแอพ โดยเปลี่ยนเครื่องหมายหัวใจ (heart) มาเป็นเครื่องหมายบวก (plus)
เดิมที Spotify มีปุ่มหัวใจเอาไว้บันทึกเพลงที่ชอบ และปุ่ม Add to playlist บันทึกเพลงลงเพลย์ลิสต์ สิ่งที่เปลี่ยนคือการยุบรวมสองปุ่มเข้าด้วยกันเป็นปุ่ม Plus เพื่อเซฟ หากต้องการเลือกว่าจะเซฟลงที่ไหน ให้กดปุ่ม Plus อีกรอบจะมีรายชื่อขึ้นมาให้เลือก
Spotify อธิบายเหตุผลของการเปลี่ยนรอบนี้ว่าทำให้ผู้ใช้เซฟเพลงที่ชอบง่ายขึ้น เซฟเพลงลงเพลย์ลิสต์หลายอันพร้อมกันในทีเดียวได้ และจากการทดสอบพบว่าการเซฟด้วยปุ่ม + ผู้ใช้มีโอกาสกลับมาฟังซ้ำสูงกว่าปุ่มหัวใจ
ที่มา - Spotify
โครงการ Thunderbird เกิดขึ้นพร้อมกับ Firefox (ยุคแรกใช้ชื่อ Firebird) แต่ ภายหลังถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับความสนใจจาก Mozilla เท่ากับ Firefox และต้องเปลี่ยนมาออกรุ่นใหม่ปีละแค่รุ่นเดียว จนกระทั่ง ปี 2020 Mozilla ตั้งหน่วยงานลูกชื่อ MZLA Technologies ขึ้นมารับผิดชอบ Thunderbird และเพิ่มทรัพยากรบุคคลให้บ้าง ทำให้โครงการเริ่มกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง
ล่าสุด ทีมพัฒนา Thunderbird ประกาศแผน 3 ปี ว่ามีเป้าหมายหลัก 3 อย่างคือ
AWS Amplify เป็นบริการ backend สำหรับเว็บแอพและแอพมือถือ (ลักษณะเดียวกับ Firebase) ที่ช่วยจัดการระบบล็อกอิน, การเก็บข้อมูลแอพ (DataStore/Storage), การแจ้งเตือน-ส่งข้อความ (push notification/PubSub)
ในงาน AWS re:Invent 2021 รอบล่าสุด Amazon เปิดตัว AWS Amplify Studio ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟซแบบวิชวลสำหรับจัดการ UI แบบลากแล้ววาง ไม่ต้องเขียนโค้ด เท่านั้นยังไม่พอ Amplify Studio ยังรองรับการแปลงดีไซน์จากโปรแกรมออกแบบยอดนิยม Figma มาเป็นโค้ด React UI เพื่อนำไปใช้ต่อบนเว็บ-แอพให้อัตโนมัติด้วย
Spotify มีโหมดการใช้งานที่เรียกว่า Car View สำหรับแอปทั้ง Android และ iOS โดยจะแสดง UI ที่เน้นอักษรตัวใหญ่ เห็นปุ่มควบคุมชัดมากขึ้น เหมาะกับเวลาใช้งานเมื่อเชื่อมต่อขณะขับรถ อย่างไรก็ตาม Spotify ได้ปิดฟีเจอร์นี้แล้ว
บริษัทไม่ได้ชี้แจงอย่างเป็นทางการ แต่ได้ตอบคำถามหลังผู้ใช้งานบน Android โพสต์ในฟอรั่ม พบว่าโหมด Car View หายไป ซึ่งคำชี้แจงคือ Spotify ได้หยุดฟีเจอร์ดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ สำหรับการฟังเพลงขณะขับรถอีก โดยบริษัทจะมองหาแนวทางใหม่มาแทน
ทั้งนี้พบว่าผู้ใช้ iOS ยังเข้าถึงโหมด Car View ได้ แต่ก็น่าจะปิดฟีเจอร์นี้ในอนาคตเช่นกัน หากเป็นไปตามที่ Spotify ประกาศ สำหรับผู้ใช้ Android แนวทางหนึ่งที่ Spotify คือการสั่งงานผ่าน Assistant นั่นเอง
การเปลี่ยนแปลงของ Windows 11 ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดย่อมหนีไม่พ้น Start Menu ที่ย้ายมาอยู่ตรงกลาง (ย้ายไปชิดขอบซ้ายได้) แต่ส่วนอื่นๆ ของ Start Menu และ Task Bar กลับปรับแต่งได้ไม่มากนักเมื่อเทียบกับ Windows 10 แถมยังถูกตัดฟีเจอร์ออกไปอีกพอสมควร (เช่น Live Tiles) ซึ่งผู้ใช้ Windows 10 จำนวนไม่น้อยย่อมขัดใจเมื่ออัพเกรดมาเป็น Windows 11
ไมโครซอฟท์ยังไม่ได้ออกมาพูดถึงแผนว่าจะปรับเปลี่ยน Start Menu อย่างไรในอนาคต ทางออกของเรื่องนี้อาจเป็นโปรแกรมปรับแต่งอย่าง Start11 ของบริษัท Stardock ที่สร้างชื่อมาตั้งแต่ Start8 ในยุค Windows 8 ที่มีปัญหาเรื่อง Start Menu/Screen เช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงสำคัญอย่างหนึ่งของ iOS 15 คือ Safari ดีไซน์ใหม่ที่ย้าย URL Bar และแถบเครื่องมือลงมาด้านล่าง ซึ่งถูกวิจารณ์ไม่น้อยเพราะผู้ใช้ไม่คุ้นเคย ทำให้แอปเปิลต้องยอมปรับดีไซน์บางจุดใน Beta หลังๆ
เรื่องนี้ Chris Lee อดีตพนักงานทีม Chrome Android ของกูเกิลได้เขียนเล่าว่ากูเกิลเคยลอง UI แบบนี้ตั้งแต่ปี 2016 แล้วพบว่าไม่เวิร์คจนต้องยกเลิกไป
Lee บอกว่าเขาเป็นคนพัฒนาดีไซน์ใหม่นี้เอง โดยใช้ชื่อว่า Chrome Home มันคือการนำช่อง URL ไปไว้ด้านล่าง แล้วมีแถบเลื่อนที่สามารถลากขึ้นมาให้เห็นปุ่มคำสั่งต่างๆ ได้อีก
Firefox ออกเวอร์ชัน 89 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ UI แบบใหม่ที่สดใสขึ้น เมนูเรียบง่ายขึ้น (โค้ดเนม Proton) แต่ก็เป็นประเด็นวิจารณ์มาตั้งแต่ช่วงทดสอบ โดยเฉพาะการออกแบบแท็บใหม่ที่เป็นก้อนสี่เหลี่ยม และดู "ลอย" ขึ้นจากแถบเครื่องมือ มีช่องว่างไม่เชื่อมต่อกัน
Mozilla บอกว่าแนวทางหลักของ UI ใหม่คือ simplified ลดสิ่งที่ไม่จำเป็นลง
ไมโครซอฟท์เปิดตัวไลบรารี WinUI (Windows UI) ครั้งแรกในปี 2018 มันคือไลบรารีที่ช่วยให้สร้าง UI บนแอพแบบ UWP ง่ายขึ้น (ด้วยเทคโนโลยี XAML ที่ใช้อยู่เดิม) เพื่อใช้งานกับแพลตฟอร์ม Windows ทุกตัวที่รองรับ UWP (รวมถึง Xbox หรือ HoloLens)
จากนั้นไมโครซอฟท์ออก WinUI 2.0 ที่มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น สามารถนำคอนโทรล XAML ไปวางไว้ในแอพ Win32 เดิมได้ (เรียกว่า XAML Islands) เพื่อให้ใช้คอนโทรลซ้ำได้แบบไม่ต้องเขียนใหม่
ปีนี้ในงาน Ignite 2019 ไมโครซอฟท์เปิดตัว WinUI 3.0 ที่ไม่ใช่เป็นแค่การอัพเกรดเวอร์ชัน แต่ขยายขอบเขตให้มันทำงานกับแอพ Win32 ได้อย่างสมบูรณ์ เท่ากับว่า WinUI 3.0 จะกลายเป็นไลบรารีมาตรฐานสำหรับ UI ในโลกของไมโครซอฟท์ นั่นเอง
หลังจากซัมซุงเปลี่ยนไปใช้ One UI ได้สักพักแล้ว ตอนนี้ก็ได้คิวของเวอร์ชั่นใหม่อย่าง One UI 2.0 ที่พัฒนาจากระบบปฏิบัติการ Android 10 กำลังจะทดสอบเวอร์ชั่นเบต้าในเร็ว ๆ นี้ โดยข้อมูลนี้มาจากกระทู้ใน Samsung community เกาหลีที่ทางผู้ดูแลบอร์ดมาโพสท์เอง
รุ่นที่ได้อัปเดตเป็น One UI 2.0 เวอร์ชั่นเบต้ามี Samsung Galaxy S10e, S10, S10+ เป็นกลุ่มแรก ส่วนรุ่นอื่นทาง GSMArena คาดว่าจะได้อัปเดตตอนเป็นเวอร์ชั่นเสถียรแล้ว
กองทัพเรือสหรัฐฯ เตรียมเปลี่ยนระบบควบคุมเรือ โดยลดการใช้หน้าจอสัมผัสเป็นการใช้คันบังคับสำหรับการควบคุมกำลังเครื่อง (throttle) หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ เรือ USS John S. McCain ชนเข้ากับเรือ Alnic MC เมื่อเดือนมีนาคม 2017 โดยการสอบสวนพบว่าสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความสับสนในการควบคุมเรือด้วยหน้าจอ GUI บนจอสัมผัสระหว่างการควบคุมในโหมดฉุกเฉิน
ตัวสถานีควบคุมเรือ (Ship’s Control Console - SCC) มีสองสถานีในเรือที่สามารถโอนสิทธิ์การควบคุมเรือไปมาได้ และเมื่อเรือเข้าสู่โหมดฉุกเฉินก็จะตัดกระบวนการขอสิทธิ์ควบคุมเรือออกไป ทำให้เข้าควบคุมเรือได้โดยตรงทันที แต่ความสับสนเกิดขึ้นเมื่อผู้ควบคุม SCC หลายสถานีพยายามแย่งกันควบคุม
Figma แอพออกแบบ UI/UX ชื่อดังอีกตัวหนึ่ง (คู่แข่งของ Sketch และ Adobe XD) ประกาศระดมทุนรอบใหม่ Series C อีก 40 ล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทมีมูลค่า 440 ล้านดอลลาร์แล้ว
นักลงทุนหลักในรอบนี้คือกองทุนชื่อดัง Sequoia Capital และยังมีคนดังๆ อย่าง Jeff Weiner (CEO LinkedIn), Mike Krieger (Co-founder Instagram), Andrew Wilson (CEO EA) มาร่วมลงทุนด้วย
Figma เป็นแอพสำหรับออกแบบ UI/UX ที่ทำงานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ จึงทำงานได้บนทุกระบบปฏิบัติการ ถือเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่า Sketch ที่มีเฉพาะบนแมคเท่านั้น การทำงานผ่านเบราว์เซอร์ยังทำให้ช่วยกันออกแบบไฟล์งานเดียวกันได้ทันที (แบบเดียวกับ Google Docs) และมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่เหมาะกับงานสายออกแบบ UI/UX อีกมาก
ไมโครซอฟท์ออก Windows 10 Insider Preview Build 18305 (19H1) มีของใหม่หลายอย่าง ที่สำคัญคือปรับหน้าดีฟอลต์ของ Start Menu ใหม่เล็กน้อย โดยแสดงแถบ Tile เพียงแถวเดียว (จากปกติสองแถว)
ไมโครซอฟท์ระบุว่าต้องการให้ Start Menu เรียบง่ายกว่าเดิม นอกจากการเปลี่ยนค่าดีฟอลต์เป็นแถวเดียวในรอบนี้แล้ว แผนการนี้ยังรวมเรื่องที่ ไมโครซอฟท์อนุญาตให้ถอนการติดตั้งแอพพรีโหลดได้มากขึ้น และ เมนู Unpin Group ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามา
ตัวแทนของซัมซุงให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ Android Authority ว่า One UI สกินเวอร์ชันใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปในสัปดาห์นี้ จะตามไปอัพเดตย้อนไปให้ถึง Galaxy S8
นั่นแปลว่ามือถือกลุ่มเรือธงที่จะได้อัพเกรดเป็น One UI คือ S8, S8 Plus, Note 8, S9, S9 Plus, Note 9 รวมถึงมือถือเรือธงของปี 2019 (ซึ่งก็น่าจะชื่อ Galaxy S10?) แต่ยังไม่มีข้อมูลว่ามือถือรุ่นอื่นๆ ที่ไม่ใช่เรือธง จะได้อัพเดตตามด้วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม มือถือที่จะได้ทดสอบ One UI รุ่น Beta น่าจะมีเฉพาะ S9, S9 Plus, Note 9 เท่านั้น
ที่มา - Android Authority
ในงาน Samsung Developer Conference 2018 ซัมซุงเปิดตัว UI แบบใหม่ของมือถือยุคถัดไป โดยใช้ชื่อว่า One UI
One UI เปลี่ยนแนวทางจาก UI ของซัมซุงในปัจจุบัน (Samsung Experience) โดยใช้สีสันสดใสมากขึ้น ต่างจากตัวปัจจุบันที่เน้นพื้นหลังสีขาวเพียงอย่างเดียว, ใช้สี่เหลี่ยมมุมโค้งแทนสี่เหลี่ยมมุมฉาก เพื่อสะท้อนถึงมือถือของซัมซุงรุ่นหลังๆ ที่เป็นขอบจอโค้งหมดแล้ว, เน้นความเรียบง่ายกว่าเดิม และเปลี่ยนดีไซน์ไอคอนใหม่ (อีกแล้ว)
One UI ยังออกแบบมาให้ใช้งานด้วยมือเดียวได้สะดวก ปุ่มต่างๆ ที่ใช้งานบ่อยจะวางอยู่ชิดขอบล่างของหน้าจอ วัตถุบนจอมีขนาดใหญ่ขึ้น กดง่ายขึ้น และมี Night Mode สำหรับใช้งานในที่มืด
Tim Brandall หัวหน้าทีม Internationalization ของ Netflix เขียนบล็อกเล่าถึงวิธีการจัดการภายใน ที่ทำให้การแสดงผลเนื้อหาบน Netflix ในภาษาต่าง ๆ แสดงผลได้ดีไม่เกิดตัวอักษรล้น UI ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายหลังจาก Netflix ขยายตลาดไปสู่ 190 ประเทศ ทำให้การแสดงผลต้องเพิ่มจากภาษาอังกฤษภาษาเดียว ไปสู่ภาษาอื่นรวม 26 ภาษา
เมื่อปลายเดือนที่เพิ่งผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Windows UI Library (WinUI) ชุดรวม UI สำหรับใช้พัฒนาแอพ UWP โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการสร้างแอพ UWP ให้รองรับ Windows 10 หลายเวอร์ชัน
นักพัฒนาจะสามารถเรียกใช้ XAML control บน WinUI เพื่อใช้สร้างส่วนติดต่อผู้ใช้ของแอพ ไม่ต่างอะไรกับการใช้ XAML control บน SDK มาตรฐานที่มากับ Windows 10 แต่ละเวอร์ชัน
สิ่งที่ทำให้ WinUI ยืดหยุ่นกว่าเป็นผลจากการแยกส่วน UI ออกมาเป็นแพคเกจที่นักพัฒนาสามารถนำมาใช้งานได้ข้ามเวอร์ชัน ไม่ถูกผูกติดกับ SDK มาตรฐานที่มีความเก่า/ใหม่ต่างกันไปตามเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการอย่างแต่ก่อน
ไมโครซอฟท์ประกาศปรับเปลี่ยนดีไซน์ UI ของ Microsoft Office ครั้งใหญ่ในรอบหลายปี การเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้นที่แถบเครื่องมือ Ribbon ที่ใช้มาตั้งแต่ Office 2007 โดยจะลดขนาดของ Ribbon ลงเพื่อเพิ่มพื้นที่แสดงผลบนหน้าจอ
Ribbon แบบใหม่เรียกว่า Simplified Ribbon จะมีพื้นที่เหลือแค่แถวเดียวเหมือนกับทูลบาร์ทั่วไป (จากเดิม 3 แถว) การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มกับ Word, Excel, PowerPoint เวอร์ชันเว็บก่อนในวันนี้ (ผู้ใช้บางกลุ่มเริ่มได้ใช้แล้ว) จากนั้นจะตามมายัง Outlook for Windows ในเดือนกรกฎาคม
ไมโครซอฟท์บอกว่าสำหรับ Word, Excel, PowerPoint เวอร์ชันบนวินโดวส์ที่มีฟีเจอร์มากที่สุด จะยังใช้ Ribbon แบบเดิมไปก่อนเพราะผู้ใช้คุ้นเคย และผู้ใช้ทุกคนสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้ Classic Ribbon ได้เสมอ
ฟีเจอร์ใหม่ของ Android P ที่ถูกพูดถึงกันมากคือ Navigation แบบใหม่ ที่เปลี่ยนจาก 3 ปุ่มมาตรฐาน ไปใช้ท่า gesture ปัดขึ้นแทน ประเด็นนี้เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก ทั้งในโลกของผู้ใช้ Android เอง และในแง่ว่าลอก iPhone X หรือไม่
ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับ David Burke หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม Android (คนที่ออกมาเดโม Android P) และได้ฟังเขาอธิบายถึงที่มาที่ไปในประเด็นนี้
ในงาน Windows Developer Day ที่เพิ่งผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ประกาศออก Adaptive Cards เวอร์ชัน 1.0 เฟรมเวิร์คสำหรับแสดงผลข้อมูลในรูปแบบการ์ดที่สามารถใช้งานข้ามแพลตฟอร์มได้ แตกต่างจากการแสดงผลการ์ดทั่วไปในปัจจุบันที่แต่ละเจ้ามักจะมีฟอร์แมทตายตัวของตัวเอง
Adaptive Cards เปิดตัวครั้งแรกในงาน Microsoft Build 2017 มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนาที่ต้องการแสดงผลข้อมูลต่างๆ ในรูปแบบการ์ดภายในผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ อย่าง Windows notifications / Timeline, Bot Framework ไปจนถึง Cortana
Classic Shell โปรแกรมปรับแต่ง Start Menu สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ที่ยังต้องการ Start Menu ในแบบเดิมๆ ที่คุ้นเคย ประกาศยุติการพัฒนาแล้ว
ทาง Ivo Beltchev ผู้พัฒนาได้ให้เหตุผลของหยุดพัฒนาไว้บน ฟอรั่ม ว่าเขาต้องการใช้เวลาว่างกับงานอดิเรกอื่นๆ การที่ต้องตามอัพเดต Classic Shell ให้สามารถใช้งานกับ Windows 10 รุ่นใหม่ที่ออกอัพเดตใหญ่ถึงปีละสองครั้ง พร้อมๆ กับการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่นั้นกลายเป็นงานที่หนักเกินไปสำหรับเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Windows เวอร์ชันใหม่ๆ มีการเปลี่ยนแปลงโมเดลการพัฒนาที่ฉีกไปจากเขียนโปรแกรม Win32 แบบเดิม งานของ Ivo ก็ยิ่งทวีความยากขึ้นอย่างมาก