Helium Network เป็นบริษัทด้านบล็อกเชน (หรือบ้างก็เรียก web3) ที่ทำระบบเครือข่ายเราเตอร์ LoRaWAN ผ่านมวลชนจำนวนมาก เพื่อให้บริการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT โดยนำแนวคิดบล็อกเชนและ token ($HNT) เข้ามาจัดสรรผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ลงทุนซื้อเราเตอร์มาให้บริการ
Helium เคยถูกยกย่องว่าเป็นกรณีศึกษาว่า web3 สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาในโลกจริงได้จริงๆ นะ ( บทความในสื่อใหญ่อย่าง The New York Times ที่พาดหัวว่า Maybe There’s a Use for Crypto After All ) แนวคิดของมันคือการสร้างเครือข่าย LoRaWAN โดยผู้ใช้ "ลงทุน" ซื้ออุปกรณ์ hotspot ราคาประมาณ 500 ดอลลาร์มาติดตั้งไว้เฉยๆ เปิดให้ Helium เข้ามาจัดการจากระยะไกล ซึ่ง Helium จะนำไปปล่อยเช่ากับ "ลูกค้าอุตสาหกรรมที่ต้องใช้งาน" และนำรายได้กลับเข้ามา "จ่ายคืน" ผู้ลงทุน โดยกระบวนการคิดค่าตอบแทนใช้ระบบ token เป็นสื่อกลางตามสมัยนิยม
แต่ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา Helium กลับถูกแฉว่า แทบไม่มีรายได้จากการเช่า LoRaWAN เข้ามาจริงๆ และลูกค้าที่ Helium แปะโลโก้ไว้บนหน้าเว็บ ซึ่งมีแบรนด์ดังๆ อย่าง Lime และ Salesforce ก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยมีความสัมพันธ์กับ Helium แต่อย่างใด
ลูกค้าทิพย์
เว็บไซต์ข่าว Mashable ออกมาแฉว่า Helium กล่าวอ้างว่าบริษัทเช่าสกูตเตอร์ Lime เป็นลูกค้ารายใหญ่ของ Helium ที่เช่าใช้เครือข่าย LoRaWAN ติดตามสกูตเตอร์ของตัวเองว่าอยู่ที่ไหนบ้าง
Lime ให้ข้อมูลกับ Mashable ว่าจริงๆ แล้ว Helium เคยมาขอทดสอบระบบเพียงครั้งเดียวในปี 2019 เป็นเวลา 1-2 เดือน แต่หลังจากนั้น Lime ก็ไม่เคยติดต่อกับ Helium อีกเลย แถมพนักงานของ Helium คนนั้นก็ลาออกจากบริษัทไปแล้ว ในเอกสารสัญญาระหว่าง Lime กับ Helium ก็ระบุชัดว่าห้ามไม่ให้ Helium กล่าวอ้างว่า Lime เป็นลูกค้าใช้งาน แต่สุดท้ายแล้ว Helium ก็ยังนำไปใช้
#ThePeoplesNetwork is trusted by users ranging from @salesforce to @VictorPest , @Airlyorg , @Nexmachina , @Care_Band , @AgulusInc , @smartmimic, @NobelSystems , @myDevices_IoT , @LeashInvisi, @TeamConserv , and many more. pic.twitter.com/x7cMtLirnD
— Helium🎈 (@helium) May 6, 2021
ฝั่งของ Salesforce ก็ออกมายืนยันกับ The Verge ว่าไม่ได้เป็นลูกค้าของ Helium เช่นกัน (The Verge บอกว่าสอบถามไปยังลูกค้ารายอื่นๆ บนหน้าเว็บ Helium ด้วย แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ)
หลังจากเรื่องนี้เป็นข่าว Lime บอกว่าเตรียมส่งจดหมายเตือนให้ Helium นำโลโก้ตัวเองออกจากสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งหมดแล้ว และหน้าเว็บของ Helium ก็ถอดโลโก้ของสองแบรนด์นี้ออกทันที
รายได้ทิพย์
Liron Shapira นักลงทุนสตาร์ตอัพ และผู้ก่อตั้งบริษัทให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์ Relationship Hero เป็นอีกรายที่ออกมาแฉว่าโมเดลการให้ผลตอบแทนของ Helium ไม่ได้เป็นจริงตามที่กล่าวอ้าง
Helium ชักชวนคนมาลงทุนทำ hotspot โดยเริ่มจากการซื้ออุปกรณ์ราคา 400-800 ดอลลาร์ นำมาติดตั้งที่บ้านของตัวเอง และคาดหวังรายได้ passive income กลับมาเดือนละประมาณ 100 ดอลลาร์ (จ่ายเป็นเหรียญ $HNT) จากการให้ Helium ไปหากินต่อ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ คือ นักลงทุน hotspot มีรายได้กลับมาประมาณ 0.01 ดอลลาร์ต่อเดือนเท่านั้น จากการถอดข้อมูลกลับจากเครดิตในระบบ Helium พบว่าในเดือนมิถุนายน 2022 ที่ผ่านมา มีเครดิตการใช้งานในระบบรวมมูลค่า 6,561 ดอลลาร์ ถึงแม้นักขุดบางคนบอกว่าได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 10-20 ดอลลาร์ แต่ Shapira ชี้ว่านั่นคือรายได้ทิพย์ เพราะเป็นเงินอุดหนุนจาก Helium เองให้นักขุดรู้สึกว่าได้ค่าตอบแทนจริง จะได้ขยายเครือข่ายนักขุดให้กว้างขึ้น (ภายหลัง Helium ยืนยันตัวเลข 6,561 ดอลลาร์ว่าเป็นรายได้จากค่าเช่าเครือข่ายจริง แต่บริษัทก็มีรายได้จากการลงทะเบียนเข้าเครือข่าย hotspot ครั้งแรกของนักลงทุนด้วย)
Nova Labs บริษัทแม่ของ Helium ได้รับเงินลงทุน 365 ล้านดอลลาร์ จากบริษัทลงทุนชื่อดัง Andreesen Horowitz โดยบริษัทระบุว่ามีเครือข่าย hotspot มากกว่า 500,000 จุดทั่วโลก ครอบคลุม 52,000 เมืองใน 168 ประเทศ
. @Helium , often cited as one of the best examples of a Web3 use case, has received $365M of investment led by @a16z .Regular folks have also been convinced to spend $250M buying hotspot nodes, in hopes of earning passive income.The result? Helium's total revenue is $6.5k/month pic.twitter.com/PyW6KPllvc
— Liron Shapira (@liron) July 26, 2022
Members of the r/helium subreddit have been increasingly vocal about seeing poor Helium returns.On average, they spent $400-800 to buy a hotspot. They were expecting $100/month, enough to recoup their costs and enjoy passive income.Then their earnings dropped to only $20/mo. pic.twitter.com/0jx2zLUaiA
— Liron Shapira (@liron) July 26, 2022
ใน ห้อง Reddit ของชุมชน Helium Network เองก็มีการตั้งคำถามเรื่องรายได้อยู่บ่อยครั้ง
ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าอนาคตของ Helium จะเป็นอย่างไรต่อ แต่ Kevin Roose คอลัมนิสต์ของ The New York Times ที่เขียนบทความแนะนำ Helium ได้ ล้างข้อความเก่าในบัญชี Twitter ทั้งหมดออกแล้ว พร้อมขึ้นข้อมูลว่าช่วงนี้ลาพักไปเลี้ยงลูก parental leave และหยุดใช้งาน Twitter ชั่วคราว
Comments
คำว่าทิพย์ในภาษาไทย เอามาใช้กับข่าวเรื่อง Crypto, NFT, Web3 ได้เห็นภาพชัดจริงๆ
..: เรื่อยไป
ทำไมอ่านแล้ว ยังกับแชร์ลูกโซ่เลยอ่ะซื้อของไปแพงๆ แล้วจ่ายปันผลคืน
ดูเป็นแชร์ลูกโมเดลลิ่งมากเลยรวมถึงการหารายได้ทิพย์ด้วย
โมเดลคล้ายแชร์ลูกโซ่อย่างมาก
เคยเข้าไปศึกษาดูอยู่กับคนขาย ดูแล้วก็สงสัยเหมือนกันรายได้จริงมาจากไหนใครใช้หส่าในไทยขายกันเครื่องละ 20,000 บาท
พอคิดเรื่องใครกันที่จะใช้จริงเข้าเยอะ ๆ ก็จัดสินใจได้ง่ายมกว่าควรเข้าไปยุ่งไหม
นึกไม่ออกเลยว่าจะมีใครไปเช่าเครือข่ายrouter คนอื่นไปทำไม
โมเดลการหาเงินนี่แชร์ลูกโซ่สุดๆ บอกลงทุน 500-800 ได้คืนเดือนละ 100 ถ้าคืนเยอะขนาดนี้จริง ต้องคิดค่าเช่าแพงมากๆ ใครจะไปเช่า?
https://explorer.helium.com/ในไทยก็มี node ไม่น้อยนะครับเนี่ย
มีคนนำเข้ามาขายครับ และมีการติดตั้งเสาเพิ่มเติมให้มันแรงขึ้นอะไรแบบนีั้ด้วยมี Youtube สอนอะไรพวกนี้ด้วย
ขาย 800 จ่ายกลับ 100 ต่อเดือน
8 เดือนคืนทุน, 12 เดือน 1200
อัตราปันผล 1200/800 = 150% !!!
โหดกว่า LUNA/USDT ที่ 20% ไม่เห็นฝุ่น
ดราม่าเอย จงซับซ้อนยิ่งขึ้น
WE ARE THE 99%
startup ทิพย์
web3 นี่มันคือยังไงหรอครับ ในนี้มีบทความรึยังนะ
ในนี้ไม่เจอครับเจอแต่ข้างนอก😂
ชื่อลูกค้ายังปลอม แค่ขาย router ก็รวยละ