Jason Schreier นักข่าวสายเกมคนดังของ Bloomberg รายงานว่าดราม่าการปลดคนของ Xbox ยังไม่จบง่ายๆ หลัง ปิด 4 สตูดิโอในเครือ Bethesda และเราจะได้เห็นการปลดคนระลอกถัดไปอีก
Schreier บอกว่าการปิดสตูดิโอ Bethesda สร้างความตกตะลึงให้พนักงาน เพราะไม่มีสัญญาณใดๆ มาก่อน อย่างกรณีของสตูดิโอฝั่งญี่ปุ่น Tango Gameworks มีข้อมูลวงในออกมาว่ากำลังอยู่ระหว่างการเสนอโครงการ Hi-Fi Rush ภาคต่อด้วย
ในงานประชุมพนักงานภายในเพื่อประกาศข่าวปิดสตูดิโอนั้น Matt Booty ประธานของทีมฝั่ง Xbox ยังออกปากชมเกม Hi-Fi Rush ภาคแรกด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้บอกเหตุผลชัดเจนว่าทำไมถึงต้องปิด Tango Gameworks และเขายืนยันว่าการปิด Arkane Austin ไม่ได้เกี่ยวกับความล้มเหลวของเกม Redfall
Booty พูดรวมๆ ว่าไมโครซอฟท์มีสตูดิโอยิบย่อยกระจัดกระจายเกินไป (spread too thin) จนทำให้แต่ละสตูดิโอรู้สึกว่ามีพนักงานไม่เพียงพอ (understaffed) จึงตัดสินใจปิดสตูดิโอบางส่วน เพื่อจัดสรรทรัพยากรใหม่
ส่วน Jill Braff หัวหน้าสตูดิโอฝั่ง ZeniMax/Bethesda บอกกับพนักงานว่าหลังจากนี้ สตูดิโอในเครือจะโฟกัสกับโครงการพัฒนาเกมจำนวนน้อยลง และที่ผ่านมาการสนับสนุนสตูดิโอเกมที่มีอยู่ 9 แห่งทั่วโลกนั้นเป็นเรื่องยาก (ปิดแล้วเหลือ 5 แห่ง)
Schreier อ้างแหล่งข่าวของเขาว่า หลังการซื้อ Activision Blizzard เสร็จสิ้น ทำให้ผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์ให้ความสนใจกับธุรกิจเกมมากขึ้น ยุทธศาสตร์ที่ผ่านมาของไมโครซอฟท์คือดัน Game Pass สุดตัว ซื้อสตูดิโอเข้ามาเพื่อเพิ่มคลังเกมใน Game Pass และไม่สนใจกับยอดขายเกมมากนัก หากช่วยดันให้ยอดสมาชิก Game Pass เติบโตต่อได้ แต่ช่วงหลังเมื่อ Game Pass ไม่ได้เติบโตแรงตามแผน จึงส่งผลให้ยุทธศาสตร์หลักสะเทือน เราจึงเห็นไมโครซอฟท์ต้องนำเกมไปขายบนแพลตฟอร์มอื่น และปรับลดค่าใช้จ่ายด้วยการปลดคน ปิดสตูดิโอบางแห่งนั่นเอง
ที่มา - Bloomberg
Comments
เสียดายเกมดี ๆ ที่ต้องตายไปกับการปิดสตูดิโอเกม/พนักงานทีมเดิมที่ออกไปเหล่านั้น ถ้าจะโฟกัสกับโครงการพัฒนาเกมจำนวนน้อยลง แล้วจะซื้อมาทำไมตั้งแต่แรก หรือเพื่อแค่อยากชนะคู่แข่งที่เขาเข้าใจเกมมากกว่า (sony, ปูนิน)
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
ถูกต้องครับ อยากเอาชนะคู่แข่ง แต่สุดท้ายแป้ก
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
เสียดายเกมในสตูดิโอ Bethesda ที่ปิดไปจริง ๆ ครับ
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
ผิด วิสัยไมโครซอร์ฟช่วงหลังมานี้ที่ชอบซื้อแล้ว ไม่ค่อยเข้าไปยุ่งอะไรเท่าไหร่ //หรือว่า บัญชีไม่ดีเปิดดูแล้วปล่อยไว้งี้เสี่ยงเกินไป เลยโละใหม่
ในมุมหนึ่ง Microsoft พยายามทำให้ Game Pass เป็นแบบ Spotify แห่งวงการเกม แต่ไม่ได้มองว่าต้นทุนการทำเกมต่อหนึ่งเกมมันแพงขนาดไหน (หรือมอง แต่คิดว่ายอมรับได้ในตอนแรก) การเอามาเหลารวมแล้วจ่ายเป็นรายเดือน ในแง่หนึ่งก็ดีกับคนเล่นเกม แต่ในแง่รายได้ไปเลี้ยง Studio มันจะพอไหมในระยะยาว แล้วถ้าเกมที่ออกมาลงทุนสูง ยอดขายไม่ได้ตามเป้า แล้วยังไงต่อ
ก็ปิดสตูดิโอแบบในข่าวไงครับ และนี่เพิ่งจะเริ่มต้น หลังจากนี้มีแต่ปิดสตูดิโอรัวๆเพราะเกมของ MS ที่ไปซื้อสตูดิโอพวกนี้มาทำ ไม่ปังเท่าที่ควร
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ซื้อเยอะๆจะได้มีคลังเกมเยอะๆ มันถูกแล้วไม่ใช่กระจายหลายๆแนว game pass จะได้แข็งขึ้น ทำไมมาบอกกระจายเกินไปกุ้ง งง 5555+
ไปส่อง Twitter ของ IkumiSan (ผู้หญิงคนที่ทำdesign tokyo ghostwire แล้วออกไปเปิด studio Unseen)เขาใช้คำว่า My time at Tango Games felt like dancing the tango on a tightrope, but I ended up falling off! haha! Nonetheless,
ภายในมันคงมีไรแหละ เราคนนอกดูที่ตัว Company แต่ข้างในมันคงมีปัญหาไรซักอย่างทีมบริหารเลยยุบแล้วโยกย้ายวิศวกร,designerไปstudio อื่นๆ
MSคิดแบบนี้มาตั้งแต่ยุค360แล้ว ให้ค่าtitleมากกว่dev ซื้อรอบนี้ก็ซื้อแค่เอาtitleมาไว้ในมือนั้นแหล่ะคิดค่าว่าวันหลังเอาtitle ไปให้devไหนทำก็ได้ก็ขายได้เหมือนกัน