Amazon ประกาศเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ Kindle, Echo, และ Fire TV รุ่นใหม่ทั้งหมดให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถรีไซเคิลได้ 100% โดยใช้เส้นใยรีไซเคิลเพิ่มขึ้น 30% ลดการใช้หมึกลง 60% เลิกใช้ชิ้นส่วนพลาสติก นอกจากนี้ Amazon ได้ลดการใช้กระดาษโดยให้คู่มือคำแนะนำการตั้งค่ามาในรูปแบบดิจิทัล
Amazon ยังลดการปล่อยคาร์บอนด้วยการพึ่งพาการขนส่งทางทะเลมากขึ้น หลังจากบริษัทพบว่า การขนส่งทางทะเลปล่อยก๊าซคาร์บอนน้อยกว่าการขนส่งทางอากาศโดยเฉลี่ยถึง 95%
ไมโครซอฟท์โชว์ต้นแบบศูนย์ข้อมูลที่ไม่ใช้น้ำเพิ่มเติม (Zero-Water Datacenter) ในการระบายความร้อนของเซิร์ฟเวอร์ เพื่อแนวทางการประหยัดน้ำในระยะยาว
ตัวเลขของศูนย์ข้อมูลในปัจจุบัน ใช้น้ำในการระบายความร้อนเซิร์ฟเวอร์ เฉลี่ยปีละ 125 ล้านลิตรต่อศูนย์ข้อมูลหนึ่งแห่ง เนื่องจากน้ำระเหยออกไปพร้อมกับความร้อน
ไมโครซอฟท์พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้ระบบน้ำแบบปิด (closed-loop) ที่ไม่มีการระเหยออกไป ใส่น้ำเข้าไปครั้งแรกตอนเริ่มวางระบบ แล้วน้ำจะวนเวียนไปมาระหว่างการดูดความร้อนจากเซิร์ฟเวอร์ และคายความร้อนออกมาใส่ตัวทำความเย็น (chiller) โดยไม่สูญเสียน้ำออกจากระบบเลย
อีกหนึ่งไฮไลท์ของ Mac mini ชิป M4 ที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งมีขนาดเล็กลงมาก และด้วยความเล็กนี้เองทำให้แอปเปิลประกาศว่าเป็นสินค้า Mac รุ่นแรกที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) รองรับเป้าหมาย Apple 2030 ที่แอปเปิลต้องการให้ทุกกิจกรรมและสินค้าเป็นกลางทางคาร์บอน
แอปเปิลบอกว่า Mac mini รุ่นใหม่ ผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิลมากกว่า 50% โดยตัวเครื่องเป็น อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%, แผงวงจรเคลือบทองคำรีไซเคิล 100%, Rare earth รีไซเคิล 100% ใช้การขนส่งทางทะเลเพื่อลดคาร์บอน แพ็คเกจเยื่อไม้ทั้งหมดไม่มีพลาสติก ทำให้คาร์บอนฟุตพริ้นต์ลดลงมากกว่า 80% โดยส่วนที่เหลือใช้การซื้อคาร์บอนเครดิตชดเชย
ค่ายอื่นอาจทำกันมานานแล้ว แต่กูเกิลเพิ่งประกาศโครงการ Certified Refurbished Phone สำหรับมือถือแบรนด์ Pixel เป็นครั้งแรก โดยเครื่องที่เป็น refurbished จะวางขายผ่านหน้าเว็บ Google Store ในราคาถูกกว่าเครื่องใหม่ 40%
กูเกิลบอกว่ามือถือที่นำกลับมาขายใหม่ ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพจากกูเกิลเอง หากจำเป็นต้องเปลี่ยนอะไหล่ ก็จะใช้แต่อะไหล่แท้เท่านั้น อัพเดตซอฟต์แวร์เป็นรุ่นล่าสุดให้ จัดแพ็กเกจลงในกล่องใหม่ และแถมที่ชาร์จมาให้ในกล่องด้วย ฮาร์ดแวร์เหล่านี้จะได้รับประกัน 1 ปี และบริการหลังขายเหมือนซื้อ Pixel รุ่นใหม่ทุกประการ
ตามที่แอปเปิลเปิดตัว iPad mini รุ่นใหม่ รุ่นที่ 7 เมื่อคืนนี้ อาจมีคนสงสัยล่วงหน้าว่าคราวนี้แอปเปิลจะเอาอะไรออกไปจากในกล่องสินค้าอีก เพราะช่วงที่ผ่านมาแอปเปิลก็ขยันนำของแถมในกล่องออกอย่างจริงจัง ตั้งแต่ ที่ชาร์จ-หูฟัง ใน iPhone 12, AirPods 4 ก็ไม่ให้สายชาร์จเลย หรือล่าสุด สติกเกอร์แอปเปิลใน iPhone ก็ไม่แถมมาแล้ว
สำหรับลูกค้าในไทยนั้น iPad mini ยังได้ที่ชาร์จและสายชาร์จมาในกล่องตามปกติ แต่คนยุโรปจะไม่ได้แบบนั้น
STACK Infrastructure ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ประกาศความสำเร็จในการเปลี่ยนเชื้อเพลิงปั่นไฟสำรอง จากเดิมใช้น้ำมันดีเซลไปใช้น้ำมันพืช (HVO100 - Hydrotreated Vegetable Oil)
แนวทางของ STACK ตั้งเป้าจะเป็นกลางทางคาร์บอนเต็มตัวภายในปี 2050 และตอนนี้ก็ใช้พลังงานหลักจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดแล้ว แต่ก็พยายามลดคาร์บอนในส่วนอื่นๆ ด้วย ในกรณีนี้คือการเปลี่ยนเชื้อเพลิงปั่นไฟสำรอง
HVO100 ไม่ได้เป็นกลางทางคาร์บอนเต็มตัว แต่ STACK ระบุว่า HVO100 ปริมาณ 1,000 ลิตรนั้นปล่อยคาร์บอนเพียง 195 กิโลกรัมเท่านั้น เทียบกับน้ำมันดีเซลที่ปล่อยถึง 3,600 กิโลกรัม และยังปล่อยอนุภาคขนาดเล็ก, คาร์บอนมอนนอกไซต์, และมลพิษอื่นๆ น้อยลง
กูเกิลประกาศเข้าลงทุนในดาวเทียม FireSat ที่สร้างขึ้นเพื่อถ่ายภาพไฟป่าโดยเฉพาะ
โครงการดาวเทียม FireSat เป็นโครงการดาวเทียมวงโคจรต่ำ (low earth orbit หรือ LEO) ของกลุ่มไม่หวังผลกำไร Earth Fire Alliance ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาหน่วยงานด้านไฟป่าทั่วโลก ที่ขาดแคลนข้อมูลสภาพพื้นที่ป่าแบบเรียลไทม์
ฝูงดาวเทียม FireSat จะมีทั้งหมด 50 ดวง สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูง ความแม่นยำระดับเมตร ได้ทุก 20 นาที ช่วยให้การแก้ปัญหาและต่อสู้กับไฟป่ามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาก ดาวเทียมจะผลิตโดยบริษัท Muon Space โดยได้เงินสนับสนุนจาก Google.org หน่วยงานไม่หวังผลกำไรของกูเกิล 13 ล้านดอลลาร์ และอีกส่วนจาก Moore Foundation ของ Gordon Moore
9to5Mac อ้างข้อความที่แอปเปิลแจ้งให้กับพนักงานร้าน Apple Store ระบุว่า iPhone 16 จะเลิกแถมสติกเกอร์โลโก้แอปเปิลมาให้ในกล่องแล้ว แต่มีกรณียกเว้นนั่นคือหากลูกค้าร้องขอ ทางร้านก็มีเตรียมไว้ให้
อย่างไรก็ตามข้อความที่แอปเปิลแจ้งกับพนักงานระบุเงื่อนไขการให้สติกเกอร์ว่า ลูกค้าต้องระบุความต้องการนี้ตอนซื้อเท่านั้น ส่วน iPhone ที่จำหน่ายผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่ายและเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ จะไม่มีสติกเกอร์มาให้ทุกกรณี
เรื่องนี้สามารถอธิบายได้ไม่ยากว่าเป็นไปตามเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของแอปเปิล ที่ต้องการให้บริษัทมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 และต้องการนำพลาสติกของจากบรรจุภัณฑ์สินค้าภายในปีหน้า
ไมโครซอฟท์รายงานถึงโครงการลดขยะในศูนย์ข้อมูลของตัวเอง โดยพยายามแก้ปัญหาที่ทุกวันนี้ศูนย์ข้อมูลต้องทำลายฮาร์ดดิสก์ที่เสียหายก่อนนำออกจากศูนย์ข้อมูล ทำให้นำมาใช้ใหม่ได้ยาก เสียแร่หายาก เช่น neodymium ไปเปล่าๆ
แนวทางของไมโครซอฟท์เปลี่ยนจากการทำลายฮาร์ดดิสก์ทั้งลูก มาเป็นการถอดทีละชิ้นส่วนด้วยหุ่นยนต์ จากนั้นบดทำลายเฉพาะส่วนจานข้อมูลเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลเท่านั้น ชิ้นส่วนอื่นๆ ยังคงสามารถนำกลับไปใช้ใหม่ได้
ตอนนี้ไมโครซอฟท์วางเป้าว่าจะปลดระวางฮาร์ดดิสก์โดยไม่บดทำลายทั้งลูกแบบเดิมให้ได้ 90% ภายในปี 2025 ชิ้นส่วนที่ได้สามารถนำกลับไปใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้อัตราส่วนดีกว่าเดิมที่บดทำลายแล้ว
กูเกิลประกาศว่าบรรจุภัณฑ์สินค้าฮาร์ดแวร์ของบริษัทได้แก่ Pixel, Fitbit และ Nest รุ่นใหม่ทั้งหมดปลอดจากชิ้นส่วนพลาสติกแล้ว (100% Plastic Free) ซึ่งเป็นความสำเร็จที่เร็วกว่าเป้าหมาย โดยกูเกิล เคยประกาศไว้ในปี 2020 ว่าบรรจุภัณฑ์สินค้าฮาร์ดแวร์ทั้งหมดจะปลอดพลาสติกในปี 2025
กูเกิลยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้ปลอดจากพลาสติกโดยยังคงความสวยงาม ตั้งแต่กระดาษที่ใช้ซึ่งแข็งแรงกว่าเดิม 3 เท่า มีน้ำหนักเบาลง ทำให้ลดปริมาณคาร์บอนในการขนส่ง ส่วนกันกระแทกผลิตจากกระดาษหนังสือพิมพ์รีไซเคิล
มีกรณีที่น่าสนใจว่าด้วยการสร้างศูนย์ข้อมูลหรือ Data Center โดยประชาชนในเมือง Akishima ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของโตเกียวมากกว่า 220 ครอบครัว ได้ลงชื่อคัดค้านการสร้างศูนย์ข้อมูลและลอจิสติก ของบริษัท GLP จากสิงคโปร์ ซึ่งระบุว่าเพื่อรองรับความต้องการใช้งานจากลูกค้าธุรกิจในญี่ปุ่น
การคัดค้านนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ประชาชนในเมือง Nagareyama ในจังหวัดชิบะ ก็เคยคัดค้านการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่สำเร็จมาแล้ว
Amazon ประกาศว่าบริษัทบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานไฟฟ้าในทุกส่วนการดำเนินงานของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ข้อมูล อาคารสำนักงาน ร้านค้า และศูนย์กระจายสินค้า ด้วยแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% ในปี 2023 เร็วกว่าเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ในปี 2030 ถึงเจ็ดปี
Amazon บอกว่าผลจากการเดินหน้าเป็นบริษัทที่ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% นี้ ทำให้บริษัทเป็นองค์กรรายใหญ่ที่สุดในโลกที่ซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ที่สุดในโลก ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 และมีการลงทุนพลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมทั่วโลก ซึ่งผลิตไฟฟ้ารองรับได้ถึง 7.6 ล้านหลังคาเรือนในสหรัฐ
กูเกิลเผยแพร่รายงานประจำปีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ( Environmental Report 2024 ) โดยรายงานปีนี้มีตัวเลขที่สำคัญคือปริมาณการปล่อยคาร์บอน ซึ่งกูเกิลกำหนดเป้าหมายให้เป็น Net-zero ภายในปี 2023 ที่เป้าหมายนี้ท้าทายขึ้นไปอีก เพราะตัวเลขปี 2023 ปริมาณการปล่อยคาร์บอนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13% และถ้าเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว 2019 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นถึง 48%
กูเกิลบอกสาเหตุหลักที่การปล่อยคาร์บอนเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลจากการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูลที่มากขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับความต้องการงานประมวลผลด้าน AI เฉพาะการใช้พลังงานไฟฟ้าในศูนย์ข้อมูลของปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 17%
Global Fishing Watch หน่วยงานไม่แสวงหากำไรที่มีกูเกิลร่วมก่อตั้ง เผยแพร่ชุดข้อมูล 2 ชุด เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจว่ากิจกรรมของมนุษย์นั้นส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางทะเลอย่างไร เช่น อุตสาหกรรมการประมง, เรือขนส่งสินค้า, น้ำมัน, โครงสร้างการขุดเจาะแก๊สธรรมชาติ, บ่อเลี้ยงปลา และอื่น ๆ
ข้อมูลทั้ง 2 ชุดนี้ นักวิจัยใช้เอ็นจินของ Google Earth เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเรดาร์ดาวเทียม และสร้างรูปภาพขึ้นอิงตามพื้นที่แนวทวีป ซึ่งทำให้เห็นสิ่งก่อสร้างกลางทะเล และเรือที่ไม่มีการส่งสัญญาณออกมา ผลลัพธ์ที่ได้คือข้อมูลกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ในพื้นที่ทะเลแต่ละวัน
กูเกิลประกาศข่าวว่าศูนย์ข้อมูลที่เมือง Hamina ในฟินแลนด์ จะนำความร้อนจากศูนย์ข้อมูล ส่งให้บ้านเรือนในย่านใกล้เคียงเพื่อใช้เป็นฮีทเตอร์ด้วย
ศูนย์ข้อมูล Hamina เปิดบริการอยู่แล้ว ความร้อนที่ได้จากศูนย์จะส่งผ่านให้บริษัทพลังงาน Hamina Energia กระจายต่อให้บ้านและธุรกิจในบริเวณนั้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 80% ของปริมาณความร้อนที่ต้องใช้งานต่อปี โดยกูเกิลไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
ที่มา - Google
ทรู เปิดตัวโครงการ e-Waste ทิ้งถูกที่ ดีต่อใจ ให้ลูกค้าและประชาชนทุกคนสามารถนำสมาร์ทโฟนเก่า โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์เสริม และอุปกรณ์ IoT ที่ไม่ใช้แล้วมาทิ้งได้ตามจุดที่กำหนด
โครงการนี้ได้ผลักดันมาจากรายงานของ Statista ที่พบว่าในปี 2023 มีอุปกรณ์ไอโอที (IoT) เชื่อมต่อและใช้บริการในประเทศไทยถึง 135.5 ล้านอุปกรณ์ แบ่งเป็นสัดส่วนจากผู้บริโภค 39% (53.85 ล้านอุปกรณ์) ภาคอุตสาหกรรม 13% (18.44 ล้านอุปกรณ์) สมาร์ทซิตี้ 8% (11.25 ล้านอุปกรณ์) และอื่นๆ นอกจากนี้
Statista ยังระบุอีกว่าแนวโน้มผู้ใช้งานอุปกรณ์สมาร์ทโฮมในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีประมาณ 10.8 ล้านราย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 73% เป็น 18.7 ล้านรายในอีก 3 ปี ข้างหน้า
กูเกิลเผยรายละเอียดของโครงการแก้ปัญหาโลกร้อน ด้วยการใช้ AI ตรวจจับตำแหน่งของการปล่อยก๊าซมีเทนจากภาพถ่ายดาวเทียม
ก๊าซมีเทน (methane) เป็นหนึ่งในตัวการสำคัญของภาวะเรือนกระจก และการปล่อยก๊าซมีเทนมักมาจากกระบวนผลิตเชื้อเพลิงฟอซซิล เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
กูเกิลร่วมกับ Environmental Defense Fund (EDF) หน่วยงานไม่หวังผลกำไรที่ทำด้านสิ่งแวดล้อมมายาวนาน และกำลังจะปล่อยดาวเทียม MethaneSAT ของตัวเองสู่ชั้นบรรยากาศในเดือนมีนาคมนี้ ดาวเทียม MethaneSAT จะโคจรรอบโลกวันละ 15 รอบแล้วถ่ายภาพที่เห็นระดับของกีาซมีเทนกลับมาวิเคราะห์
บริษัทวิจัย Canalys ประเมินว่าอาจมีพีซีเยอะถึง 240 ล้านเครื่องล้าสมัย และกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต หลัง Windows 10 หมดระยะซัพพอร์ตช่วงเดือนตุลาคม 2025 เพราะไม่สามารถอัพเกรดไปเป็น Windows 11 ได้เนื่องจากข้อจำกัดทางสเปกฮาร์ดแวร์
Canalys ยังเรียกร้องให้ผู้ผลิตพีซีและไมโครซอฟท์ มีความรับผิดชอบในการยืดระยะเวลาใช้งานพีซีให้นานที่สุดเท่าที่ฮาร์ดแวร์เอื้ออำนวย รวมถึงมีแผนการจัดการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่จริงจังด้วย อย่างไรก็ตาม Canalys ก็ยอมรับว่าการไม่มีกฎหมายเรื่องนี้ที่ชัดเจน ทำให้ไม่สามารถปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงานของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ได้
Amazon โชว์ระบบการแพ็กของแบบใหม่ที่ใช้กระดาษล้วน 100% แทนการใช้กระดาษผสมพลาสติก แก้ปัญหาเรื่องการรีไซเคิลได้มาก ตอนนี้เริ่มใช้แล้วในศูนย์กระจายสินค้าที่เมือง Euclid รัฐโอไฮโอ โดยจะขยายผลไปยังศูนย์กระจายสินค้าอื่นๆ ต่อไป
Amazon บอกว่าพยายามแก้ปัญหานี้มาหลายปีแล้ว โดยมีตำแหน่งวิศวกรแพ็กเกจจิ้ง (packaging engineer) มาทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ วิธีการมีหลายอย่างประกอบกัน ทั้งการปรับเครื่องจักรแพ็กเกจจิ้งใหม่ให้รองรับวัสดุกระดาษแทนพลาสติก การออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้ฟิตพอดีกับสินค้า การใช้วัสดุกระดาษแบบใหม่ที่มีคุณสมบัติคงทน-กันน้ำ แต่ยังรีไซเคิลได้ และการใช้กระดาษเป็นตัวกันกระแทกในกล่องแทนหมอนลมพลาสติกแบบเดิม
กูเกิลประกาศเพิ่มเครื่องมือเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability) ทั้งการเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเครื่องมือเตือนภัยต่าง ๆ
โครงการแรกคือ Project Green Light โดยนำ AI มาช่วยคำนวณการเปิดสัญญาณไฟจราจร เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนโดยเฉพาะในจุดตัดตามแยกต่าง ๆ เมื่อยานพาหนะต้องจอดรอไฟสัญญาณ ทำให้ยานพาหนะต้องจอดรอน้อยลง 30% ลดการปล่อยคาร์บอนตามแยก 10% ปัจจุบันโครงการนี้ทดสอบแล้วใน 70 แยก ของ 12 เมือง ซึ่งมีบาหลีและจาการ์ตาด้วย
ต่อมาคือเครื่องมือหาเส้นทางใน Google Maps แบบที่ ประหยัดพลังงานที่สุด เพิ่มเติมในอีกสองประเทศคืออินเดียและอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังเพิ่มตัวเลือกยานพาหนะแบบสองล้อในตัวเลือกด้วย
LEGO ประกาศเปลี่ยนแผนการสู่ความยั่งยืน หลังเคยประกาศแผนเมื่อปี 2021 ว่าจะเปลี่ยนวัตถุดิบจากพลาสติก acrylonitrile butadiene styrene (ABS) ไปเป็น polyethylene terephthalate (PET) ที่รีไซเคิลมาจากขวดพลาสติก แต่ก็พบว่ากระบวนการใช้พลังงานมากกว่าเดิม จนไม่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน
แม้ว่าจะเปลี่ยนแผนไม่ใช้ PET แล้วแต่ LEGO ก็ยืนยันว่าจะเปลี่ยนวัตถุดิบเพื่อความยั่งยืนยิ่งขึ้น จนลดคาร์บอนลง 37% ให้ได้ภายในปี 2032 หรืออีก 8 ปีข้างหน้า และตอนนี้ก็ัยังทดสอบวัตถุดิบอีกหลายอย่าง
ที่มา - BBC
จากงานแอปเปิลเมื่อคืนที่แอปเปิลนำเสนอว่า Apple Watch เป็นสินค้าตัวแรกที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ซึ่งทั้งสินค้าและกระบวนการผลิตมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด การเปลี่ยนแปลงนี้ก็มีผลต่อสินค้า Apple Watch ที่ออกแบบร่วมกับพาร์ตเนอร์ด้วยเช่นกัน
ในงานแถลงข่าว Wanderlust ของแอปเปิลเมื่อคืนนี้ แอปเปิล ใช้เวลา พอสมควรในการเล่าเรื่องราวความพยายามของบริษัท ที่จะออกสินค้าให้มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด นอกจากการประกาศว่า Apple Watch เป็นสินค้าที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ตัวแรกของแอปเปิลแล้ว ยังมีประเด็นส่วนอุปกรณ์เสริมด้วย
แอปเปิลประกาศความก้าวหน้า ของการลดปริมาณคาร์บอนในกระบวนการซัพพลายเชน โดยโรงงานทั้งหมดในสายการผลิตมากกว่า 300 แห่งทั่วโลก จะใช้พลังงานสะอาด 100% ในกระบวนการผลิตสินค้าภายในปี 2030 เพิ่มขึ้นจากจำนวนกว่า 50 ซัพพลายเออร์ที่เข้าร่วมโครงการก่อนหน้านี้
แอปเปิลยังประกาศความก้าวหน้าในการมุ่งสู่ความกลางเป็นทางคาร์บอน (carbon neutral) โดยยกตัวอย่าง Apple Watch ที่เปลี่ยนตั้งแต่วัสดุในการผลิต มาใช้วัสดุรีไซเคิลทั้งหมด พลังงานไฟฟ้าสะอาดในการผลิต รวมทั้งปรับขนาดแพ็คเกจสินค้าและวิธีการขนส่ง ทำให้มีปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนที่ลดลง
Google Cloud เปิดตัว Air Quality API สำหรับเรียกดูข้อมูลคุณภาพอากาศแบบอัพเดตทุก 1 ชั่วโมง ในพื้นที่กว่า 100 ประเทศทั่วโลก (มีไทยด้วย รายชื่อประเทศทั้งหมด ) ข้อมูลบางจุดอาจแม่นยำระดับ 500 เมตร และมีข้อมูลรายชั่วโมงย้อนหลังให้ 30 วัน
กูเกิลบอกว่าปัญหาคุณภาพอากาศเป็นเรื่องร้ายแรงขึ้นมาก ทุกวันนี้เราเช็คคุณภาพอากาศบ่อยพอๆ กับเช็คพยากรณ์อากาศแล้ว จึงพัฒนา Air Quality API ขึ้นมาเพื่อให้นักพัฒนาแอพหรือฮาร์ดแวร์ต่างๆ เรียกใช้งานต่อได้ง่าย และไม่จำเป็นต้องลงทุนติดเซ็นเซอร์วัดอากาศเพิ่มเอง เรียกใช้จาก API แทนได้