Google ประกาศปิดตัว Currents หรือเรียกว่าเป็น ชื่อใหม่ของ Google+ สำหรับ G Suite ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2020

เหตุผลที่ปิดตัว Currents คือ Google ต้องการผลักดันให้คนไปใช้ Spaces ซึ่งเป็นลักษณะแชทในที่ทำงานเหมือน Slack

หลังจากเปิดตัว Google Currents ไปเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ล่าสุด Google เผยว่า Google Currents สำหรับ G Suite จะเปิดให้ใช้งานในวันที่ 6 กรกฎาคมที่จะถึงนี้

Google Currents สำหรับ G Suite จะมาพร้อมกับหน้าตาที่อัพเดทจากเดิม พร้อมทั้งเพิ่มฟีเจอร์ให้สอดคล้องกับการใช้งานภายในองค์กรมากยิ่งขึ้น เช่น การสร้างโพล, การแชร์ไฟล์ผ่าน drive, การปักหมุดเนื้อหา，การค้นหาไฟล์ผ่านระบบ tags & streams เป็นต้น

Google ยังเผยอีกว่า บัญชีและเนื้อหาทั้งหมดที่อยู่เคยใน Google+ จะย้ายไปอยู่ใน Google Currents โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ แอป Google+ บน iOS และ Android ก็จะได้รับการอัพเดทให้เป็นแอป Google Currents เช่นเดียวกัน

กูเกิลประกาศในงาน Cloud Next ว่า Google+ ซึ่งปิดให้บริการสำหรับผู้ใช้ทั่วไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังคงมีอยู่สำหรับลูกค้าองค์กร G Suite นั้น ทางกูเกิลก็มีแผนจะเปลี่ยนผ่านเช่นเดียวกัน

โดยผู้ใช้ G Suite จะได้บริการตัวใหม่มาทดแทน Google+ มีชื่อว่า Currents ซึ่งมีรูปแบบการใช้งานเหมือนกับ Google+ แต่ออกแบบใหม่ให้เข้ากับรูปแบบการใช้งานระดับองค์กรมากขึ้น เนื้อหาเดิมที่อยู่บน Google+ จะถูกย้ายมาที่ Currents ใหม่นี้

สถานะของ Currents ตอนนี้คือเบต้า หากองค์กรใดสนใจทดลองใช้ ผู้ดูแลบัญชีองค์กรจะต้องอีเมลแจ้งมาที่ CurrentsBeta@google.com เพื่อขอใช้งาน

ตามที่ กูเกิลประกาศไว้ว่าจะปิด Google+ ในวันที่ 2 เมษายน (ตามเวลาสหรัฐ) ตอนนี้หน้าเว็บ Google+ (plus.google.com) ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว เมื่อเข้าหน้าเว็บไปก็เจอกับข้อความตามภาพ

ข้อมูลที่เราเคยโพสต์ไปบน Google+ จะถูกลบในอนาคต (ช่วงนี้ยังสามารถดาวน์โหลดเก็บไว้ได้ถ้าต้องการ) แต่ส่วนของรูปภาพ-วิดีโอต่างๆ จะย้ายเข้าไปยัง Google Photos ให้อัตโนมัติ

Google+ เวอร์ชันสำหรับลูกค้าองค์กร G Suite ยังสามารถใช้งานได้ต่อไป

Google ประกาศ วันปิด Google+ อย่างเป็นทางการแล้ว คือวันที่ 2 เมษายนนี้ ซึ่งหลังจากนั้น Google จะทยอยลบข้อมูล แต่ข้อมูลสำคัญบางอย่างก็อาจอยู่บน Google+ จนยากที่จะปล่อยให้ลบไปด้วย

วันนี้ ทางทีม ArchiveTeam และ Internet Archive ได้โพสต์ลง Reddit โดยระบุว่าตอนนี้กำลังไล่แคชข้อมูลบน Google+ อยู่ เพื่อรักษาโพสต์สาธารณะไว้ก่อนที่ Google จะทำการลบมันออกไปอย่างถาวร และจะให้ข้อมูลเหล่านี้ค้นหาได้ผ่าน Wayback Machine

ผู้ใช้ Google อาจคุ้นเคยกับ Notification Widget หรือวิดเจ็ตแจ้งเตือนรูปกระดิ่งซึ่งอยู่มุมบนขวาด้านข้างรูปโปรไฟล์เมื่อเข้าใช้บริการต่าง ๆ แต่ล่าสุด Google ประกาศหยุดให้บริการวิดเจ็ตอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 7 มีนาคมนี้

Notification Widget ของ Google นั้นเกิดขึ้นมาเพื่อใช้งานกับ Google+ ตั้งแต่ปี 2011 มีหน้าที่แจ้งเตือนกิจกรรมบนโซเชียลเน็ตเวิร์คของ Google+ และหลังจากนั้น Google จึงเริ่มขยายให้การแจ้งเตือนนี้ครอบคลุม Google Photos และ Hangout Chat ด้วย แต่เนื่องจาก Google+ ก็ประกาศวันปิดบริการมาแล้ว วิดเจ็ตนี้จึงถูกสั่งปิดไปด้วยเช่นกัน

กูเกิลประกาศวันปิดบริการ Google+ อย่างถาวร จากที่ก่อนหน้านี้ ประกาศเลื่อนกำหนดปิดให้เร็วขึ้น เป็นเดือนเมษายนนี้

กูเกิลประกาศข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Google+ ที่ เคยประกาศว่า จะปิดให้บริการในเดือนสิงหาคมปีหน้า โดยกูเกิลบอกว่าได้ค้นพบบั๊กที่เกิดจากการอัพเดตซอฟต์แวร์เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กระทบต่อ Google+ API กระทบผู้ใช้ 52.5 ล้านบัญชี โดยบั๊กนี้ทำให้ API สามารถเข้าถึงข้อมูลพื้นฐานผู้ใช้งาน อาทิ ชื่อ เมล อาชีพ อายุ ได้ แม้ผู้ใช้จะกำหนดค่าไม่เป็นสาธารณะก็ตาม

อย่างไรก็ตามกูเกิลบอกว่าบั๊กนี้แก้ไขเสร็จในเวลา 6 วัน และไม่พบหลักฐานว่ามีแอปภายนอกเข้ามาดึงข้อมูลออกไปได้

หลังจากที่ กูเกิลประกาศปิดตัว Google+ เดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ อดีตทีมงานที่ทำหน้าที่ Graphic Designer ในช่วงปี 2011-2012 และอ้างว่ามีส่วนสำคัญในการ ปรับปรุงดีไซน์ของ Google+ ในช่วงปี 2012 ได้ออกมาเล่าถึงประสบการณ์การทำงานมุมหนึ่งที่ของทีมกูเกิลที่คนภายนอกไม่ค่อยได้เห็นมากนักผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา

แม้ว่า Google+ จะเลิกให้บริการในปีหน้า แต่นั่นก็เป็นเฉพาะฝั่งผู้ใช้ทั่วไป ในขณะที่ Google+ ใน G Suite ซึ่งเป็นเครื่องมือผู้ใช้ระดับองค์กรยังคงมี Google+ ในฐานะชุมชนสำหรับการติดต่อสื่อสารภายในที่ทำงานให้ใช้งานเช่นเดิม

ล่าสุด Google ประกาศเพิ่มเครื่องมือจัดการรระดับองค์กรให้ผู้ดูแลระบบ G Suite สามารถควบคุม Google+ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งล่าสุด Google ก็มีฟีเจอร์เพิ่มคนใน Groups เข้า community ของ Google+ แบบทีเดียว และเมื่อพนักงานใช้ Google+ ผู้ดูแลระบบก็สามารถดู engagement metrics ได้ด้วย และในอนาคต Google ระบุว่าอาจมีฟีเจอร์ให้ผู้ดูแลระบบตรวจสอบและแก้ไขโพสต์ที่สร้างโดยพนักงานได้ด้วย

ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น

อย่างที่ทราบกันแล้วว่า Google+ บริการโซเชียลของกูเกิล ที่เคยหมายมั่น ปั้นมาเป็น Social Network ตัวใหม่ ได้ประกาศ ปิดตัว ในปีหน้า สิ่งน่าสนใจคือหลายคนก็ยังใช้งาน Google+ อยู่ เพียงแต่เมื่อไปดูผู้บริหารระดับสูงของกูเกิล ... พวกเขาเลิกใช้มาระยะหนึ่งแล้ว

Business Insider รวบรวม Google+ ของผู้บริหารระดับสูงในกูเกิล พบว่าทุกคนเลิกใช้ Google+ (โพสต์แบบสาธารณะ) มาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว

กูเกิลประกาศวันนี้ว่าบริการโซเชียล Google+ จะปิดตัวในอีก 10 เดือนข้างหน้า โดยเป็นการปิดเฉพาะ Google+ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปเท่านั้น แต่ Google+ สำหรับลูกค้าองค์กรจะยังให้บริการต่อไปตามเดิม

การประกาศปิดตัวโซเชียลที่กูเกิลเคยคาดหวังจะต่อกรกับ Facebook นี้ กูเกิลอธิบายว่าเป็นผลจากโครงการภายในชื่อ Strobe ที่ต้องการปรับปรุงกระบวนการปกป้องข้อมูลผู้ใช้งานทั้งบัญชีกูเกิลและ Android ให้ดีมากขึ้น จึงค้นพบข้อมูลน่าสนใจว่า Google+ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปนั้น มีการใช้งานที่ต่ำมาก โดย 90% ของผู้ใช้งานมีเซสชั่นต่ำกว่า 5 วินาที

Google ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Google+ หลายอย่าง พร้อมกับประกาศการปิดตัว Google+ คลาสสิค โดยฟีเจอร์ใหม่ของ Google+ มีดังนี้

Google ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า RAISR (ย่อมาจาก Rapid and Accurate Super Image Resolution) ไปแล้ว ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ machine learning ช่วยประหยัดข้อมูลในการดาวน์โหลดไฟล์ภาพ คือไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดไฟล์ที่เป็นขนาดเต็มมา แต่ดาวน์โหลดมาเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

RAISR นั้นจะใช้รูปภาพที่ดาวน์โหลดด้วยความละเอียดต่ำ มาทำการเก็บรายละเอียดภาพโดยใช้ machine learning ซึ่งจากการใช้งาน RAISR กับรูปภาพบน Google+ แล้วพบว่าช่วยลดปริมาณการใช้ข้อมูลลงได้สูงสุด 75% ต่อภาพ โดยยังคงแสดงภาพขนาดเต็มได้อย่างสวยงาม

โครงการผูกบัญชี Google+ ของกูเกิลถือว่าล้มเหลว หลังจาก กูเกิลเลิกบังคับการผูกบัญชี Google+ กับบริการในเครือ ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุดกูเกิลออกคำแนะนำให้เลิกใช้ปุ่ม Sign in with Google+ และเปลี่ยนมาเป็น Sign in with Google (ไม่มี + แทน)

ปุ่ม Sign in with Google แบบใหม่ใช้ได้กับผู้ใช้ทุกคนที่มีบัญชี Google Account และไม่จำเป็นต้องมีบัญชี Google+

นักพัฒนาแอพหรือเว็บที่เคยทำระบบ Sign in with Google ตั้งแต่สมัย Plus ต้องเปลี่ยนโค้ดเล็กน้อยเพื่อใช้ปุ่มแบบใหม่

กูเกิลประกาศปิดบริการถ่ายทอดสด Hangouts on Air (ไม่ใช่ Hangouts) ที่อยู่ในเครือ Google+ โดยให้ผู้ใช้ย้ายมาใช้ระบบ YouTube Live แทน

Hangouts on Air เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2011 และสามารถใช้ได้ถึงแค่ 12 กันยายนนี้ โดย YouTube Live มีฟีเจอร์บางอย่างเทียบเท่ากัน ทั้งการประกาศจัดงานถ่ายทอดสดล่วงหน้า และการควบคุมการเข้าถึงของผู้ชม แต่จะไม่มีฟีเจอร์ตอบคำถาม (Q&A) หรือการปรบมือให้กำลังใจผู้ถ่ายทอด

วิดีโอเก่าของ Hangouts on Air ที่เคยถ่ายไปแล้วจะยังสามารถเข้าถึงได้จากบัญชี YouTube

Google นั้นเริ่มที่จะตัด Google+ ออกจากบริการต่าง ๆ เรื่อย ๆ และล่าสุดก็มาถึงคิวของ Play Store แล้ว โดยตอนนี้ได้ปิดการโหวตแแอพโดยใช้ Google+ และไม่จำเป็นต้องใช้บัญชี Google+ ในการรีวิวแอพ, เกม และสื่ออื่น ๆ อีกต่อไป และส่วน People ใน Play Store ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ Google+ อย่างมาก รวมถึงระบบ +1 บน Play Store ก็จะถูกปิดเช่นกัน

การปลดการผูกบัญชี Google+ เข้ากับบริการต่าง ๆ ของ Google นี้เริ่มตั้งแต่ กลางปีที่แล้ว โดยให้เหตุผลว่า การที่อนุญาตให้ผู้ใช้ได้ใช้เพียงบัญชีหลักของ Google ในการเข้าสู่บริการนั้นจะช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะผู้อื่นจะได้ไม่สามารถติดตามเราผ่านทาง Google+ ได้โดยตรง

กูเกิลปรับวิธีการล็อกอินและขอสิทธิของบริการ Google Play Games ใหม่ ช่วยให้การล็อกอินสะดวกมากขึ้น รายละเอียดมีดังนี้

• เปลี่ยนระบบล็อกอินตามบัญชี ผู้เล่นเกมจะล็อกอินครั้งแรกครั้งเดียว ใช้งานได้ทุกเกม ของเดิมต้องล็อกอินทีละเกม (สามารถปิดการล็อกอินอัตโนมัติได้จากหน้าตั้งค่าของ Google Play Games)
• ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องมีบัญชี Google+ อีกต่อไปแล้ว สำหรับผู้เล่นที่เคยล็อกอินด้วย Google+ ID ไปแล้วก็จะใช้งานได้ต่อไป แต่ถ้าเป็นผู้เล่นใหม่จะได้ Player ID ใหม่แทน

นักพัฒนาเกมไม่ต้องแก้ไขโค้ดของตัวเอง แต่เพื่อความสะดวกของผู้เล่น อาจปิดการขอสิทธิบางอย่างได้ รายละเอียดอ่านได้ตามลิงก์

Google+ เงียบหายไปนานพร้อมข่าวลือมากมายว่ากูเกิลจะเลิกทำแล้ว แต่วันนี้กูเกิลประกาศยกเครื่อง UI ของ Google+ ครั้งใหญ่ ฟีเจอร์การโพสต์บน timeline ยังอยู่เหมือนเดิมแต่ถูกลดความสำคัญลง หันไปเน้นฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมสูงอย่าง Communities และ Collections แทน

กูเกิลเผยสถิติว่า Communities มีผู้ใช้ใหม่ถึงวันละ 1.2 ล้านคน และ Collections ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่กี่เดือน ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ UI ใหม่ของ Google+ (ทั้งเว็บและแอพ) เน้นไปที่การเข้าถึงสองฟีเจอร์นี้ได้ง่ายขึ้น ทั้งสองส่วนได้สีประจำหมวดของตัวเอง โดย Communties เป็นสีเขียว และ Collections เป็นสีฟ้า

ตามปกติแล้ว ผู้ผลิตมือถือ Android ที่อยากได้ซอฟต์แวร์ของกูเกิลส่วนที่ไม่โอเพนซอร์ส (Google Play Store, Google Play Services) ต้องเซ็นสัญญากับกูเกิล และติดตั้งแอพของกูเกิล "ทั้งชุด" แบบเลือกเองไม่ได้ ตัวอย่างแอพในกลุ่มนี้ได้แก่ Gmail, Google Maps, YouTube, Chrome ฯลฯ ซึ่งจัดเป็นชุดพรีโหลดมาเป็นมาตรฐานเดียว

แต่ล่าสุดมีคนไปเจอความเปลี่ยนแปลงใน Galaxy Note 5 รุ่นล่าสุดของซัมซุง ว่าแอพ Google+ กลับไม่ถูกพรีโหลดมาเป็นค่าดีฟอลต์อีกต่อไปแล้ว และทางกูเกิลก็ไม่มีคำอธิบายใดๆ ว่าทำไมถึงถอด Google+ ออกไปอย่างเงียบๆ (ส่วน Google Photos ยังพรีโหลดอยู่)

Google จะทยอยปลดข้อกำหนดให้ผู้ใช้ผูกบัญชี Google+ เข้ากับบริการต่างๆ ของตน ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการต่างๆ ได้โดยอาศัยเพียงแค่ที่อยู่อีเมลเท่านั้น โดยประเดิมกับระบบใช้งาน YouTube เป็นอย่างแรกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

กูเกิลเผยสถิติของการโปรโมทแอพมือถือไว้บนหน้าแรกของเว็บแบบเต็มหน้า (interstitial) เพื่อชักจูงให้คนเข้าเว็บหันไปโหลดแอพ พบว่าไม่ได้ผลและทำให้ประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้แย่ลงมาก

กูเกิลทดลองโปรโมทแอพ Google+ ของตัวเอง และพบว่ามีผู้ใช้งานเพียง 9% เท่านั้นที่กดปุ่ม Get App บนหน้าเว็บ ในทางกลับกัน ผู้ใช้อีก 69% เจอหน้าโปรโมทแอพแล้วเลิกเข้าชมเว็บไปเสียเลย

จากนั้นกูเกิลทดลองทำสิ่งที่กลับกันคือเอาหน้าโปรโมทแอพออก แล้วเปลี่ยนมาโฆษณาผ่านแบนเนอร์ที่ไม่เกะกะแทน ผลคือคนเข้าเว็บเพิ่มขึ้นถึง 17% ในขณะที่ยอดผู้ใช้แอพไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

ยุคสมัยที่กูเกิลดึงทุกอย่างไปรวมกับ Google+ ใกล้สิ้นสุดลง เราเห็นการแยก Hangouts และ Photos ออกไปแล้ว ความเคลื่อนไหวล่าสุดคือกูเกิลเริ่มส่งอีเมลแจ้งเจ้าของ Google+ Page ที่เชื่อมกับบัญชีธุรกิจรายย่อย Google My Business ว่าถ้าเพจนั้นไม่สามารถยืนยันตัวตนความเป็นเจ้าของเพจได้ ก็จะถูกปิดเพจในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้

ก่อนหน้านี้กูเกิลพยายามผูกฐานข้อมูลร้านค้าใน Google Maps (ที่เมื่อก่อนเรียกว่า Google Local) เข้ากับระบบเพจของ Google+ ซึ่งร้านค้าจะต้องยืนยันตัวตนผ่านโทรศัพท์หรือไปรษณีย์ ทางทีม Google Maps ให้คำแนะนำว่าร้านค้าที่ยังอยากคงเพจไว้ก็ควรยืนยันตัวตนโดยเร็ว

สำหรับเพจในระบบ Google+ ปกติที่ไม่ผูกกับ Google My Business จะไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ครับ

กูเกิลส่งสัญญาณปิด Google+ Photos มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว วันนี้บริษัทออกมาประกาศว่าจะปิด Google+ Photos บน Android ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ และจะปิดเวอร์ชันเว็บกับ iOS ตามมาหลังจากนั้น

ภาพและวิดีโอทั้งหมดที่แบ็คอัพลงใน Google+ Photos จะยังอยู่ครบ ผู้ใช้แค่ต้องดาวน์โหลดแอพ Google Photos มาเพิ่มเท่านั้น (แอพ Google+ Photos จะใช้งานไม่ได้) หรือสามารถเข้าได้ผ่านหน้าเว็บ photos.google.com

Google+ บนแอนดรอยด์อัพเดตเวอร์ชัน 5.8 การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเริ่มแจ้งเตือนผู้ใช้ว่า Google+ Photos จะหายไปในเร็วๆ นี้ และแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้แอพใหม่ Google Photos แทน

ผู้ใช้ Google+ ยังสามารถเพิกเฉยกับคำเตือนนี้ และใช้งาน Google+ Photos ตัวเก่า (ที่มีความสามารถด้านแก้ไขรูปภาพมากกว่า Google Photos ตัวใหม่) ได้ดังเดิม แต่ในระยะยาวแล้วท่าทีของกูเกิลก็ชัดเจนว่าต้องการให้ทุกคนย้ายไปใช้ Google Photos

ที่มา - Android Police