ช่อง TheRankings บน YouTube รวบรวมสถิติจีพียูยอดนิยมจาก Steam Hardware & Software Survey เป็นเวลาย้อนหลังไปไกลถึง 15 ปี (นับจากเดือนเมษายน 2004 จนถึงมีนาคม 2019) แล้วทำเป็น infographic ให้ดูกันง่ายๆ ว่าจีพียูยอดนิยมในแต่ละช่วงเวลาคือตัวใดบ้าง

จีพียูยอดนิยมในช่วง 15 ปีก่อน ปี 2004 คือยุคของ GeForce 4MX แต่ก็ถูกโค่นโดย Radeon 9800/9600 อยู่พักใหญ่ จากนั้น NVIDIA กลับมาแซงกลับได้ด้วย GeForce 6600 ในช่วงกลางปี 2006 และยิงยาวครองบัลลังก์ต่อด้วย GeForce 7600/8800 มาจนถึงต้นปี 2010

AMD มาทวงบัลลังก์ได้อีกครั้งด้วย Radeon HD 4800 ได้จนถึงปลายปี 2011 แล้วเป็นการสลับกันนำระหว่าง GeForce 9800, Radeon HD 5700, GeForce GTX 560

หลังจาก เกม Borderlands 3 ประกาศขายผ่าน Epic Games Store แบบเอ็กซ์คลูซีฟ แฟนๆ จำนวนหนึ่งก็ไม่พอใจ และแสดงออกด้วยการรีวิวเกม Borderlands ภาคเก่าๆ ที่ยังขายบน Steam ด้วยคะแนนแบบติดลบ

ฝั่งของ Valve เองก็มีมาตรการคัดกรอง "รีวิวที่ไม่เกี่ยวข้องกับเกม" (off-topic review) ออกจากรีวิวปกติ ไม่นำมาคิดคะแนนเฉลี่ย ทำให้ระดับคะแนนเฉลี่ยของ Borderlands ภาคเก่าๆ เช่น Borderlands 2 หรือภาค The-Prequel ยังสูงระดับ Very Positive อยู่ (พร้อมดอกจันห้อยท้ายว่าโหมดกรอง off-topic review ทำงาน)

ผู้ใช้บางคนก็ตอบโต้ด้วยการให้คะแนนรีวิวเป็นบวก แต่ก็เขียนข้อความวิจารณ์เกมภาค 3 ที่ไปลง Epic Games Store เช่นกัน

วันอังคารที่ผ่านมา ในงาน Game Developers Conference ที่จัดขึ้นในซานฟรานซิสโก Valve ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงหลายๆที่จะอย่างเกิดขึ้นกับ Steam ทั้งยกเครื่องระบบไลบรารีหลังจากที่ ยกเครื่อง Steam Chat ไปเมื่อปีที่แล้ว และเพิ่มระบบ Event ที่เป็นพื้นที่ให้ผู้พัฒนาสื่อสารกับผู้เล่นโดยตรงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเกมของตัวเอง

เมื่อกลางปีที่แล้ว Steam ประกาศนโยบายเปิดเสรีเกมทุกประเภทให้ขึ้น Store ได้ โดยไม่สนใจเรื่องเนื้อหาที่ขัดแย้ง ทั้งเรื่องเพศ หรือความรุนแรง

สัปดาห์นี้มีนักพัฒนาอิสระรายหนึ่งชื่อ Desk Plant เปิดตัวเกม Rape Dayโดยอธิบายว่าเป็นเกมแนว visual novel ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ ผู้เล่นสามารถเลือกฆ่าตัวละครอื่นๆ และข่มขืนตัวละครหญิงได้ถ้าต้องการ

เกมนี้กลายเป็นข้อถกเถียงสำคัญว่าสามารถนำขึ้น Steam ได้หรือไม่ เพราะถึงแม้เนื้อหาเกมดูไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่ผิดกฎของ Steam แต่อย่างใด ทำให้หลายคนจับตามองว่าตกลงแล้ว Valve จะตัดสินใจอย่างไรในเรื่องนี้

มาอย่างเงียบๆ และจากไปอย่างเงียบๆ กับเซคชันวิดิโอบนสโตร์ที่ Steam พยายามทำเป็นแพลตฟอร์มวิดิโอให้ดูทั้งฟรีและเสียตัง ล่าสุด Steam ประกาศนำส่วนวิดิโอนี้ออกจากสโตร์แล้ว

Steam ระบุว่าแรกเริ่มเดิมทีต้องการขยายตัวเองจากแค่แพลตฟอร์มเกมและซอฟต์แวร์ไปยังวิดิโอด้วย แต่เมื่อพิจารณาพฤติกรรมผู้ใช้แล้ว ทำให้ Steam เลือกที่กลับมาโฟกัสการนำเสนอคอนเทนท์ที่เกี่ยวข้องกับเกมหรือซอฟต์แวร์ที่ขายบน Steam อย่างเดียวดีกว่า

Steam สรุปสถิติของปี 2018 มีประเด็นน่าสนใจดังนี้

• ผู้เล่น (active users) ต่อวัน 47 ล้านราย, ต่อเดือน 90 ล้านราย
• ผู้เล่นพร้อมกัน (concurrent users) สูงสุดที่ 18.5 ล้านราย
• สัดส่วนของผู้เล่นจากภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้นมาก จากในปี 2012 ที่มีผู้เล่นจากเอเชียน้อยมาก ตอนนี้ทัดเทียมกับผู้เล่นจากอเมริกาเหนือ-ยุโรปตะวันตกแล้ว
• คอนโทรลเลอร์ยอดนิยมบน Steam ยังเป็นของ Xbox 360 ตามด้วย Xbox One, PS4, PS4, Steam Controller
• ปริมาณข้อมูลตลอดปี 2018 ที่ Steam ส่งออกไปยังผู้เล่น อยู่ที่ 15.39 exabytes

Ubisoft ประกาศข่าวสำคัญของเกม Tom Clancy's The Division 2 ภาคต่อของเกมยิง FPS แนวมัลติเพลเยอร์ ว่าจะไม่ลง Steam ตามแผนเดิม แต่เปลี่ยนมาลง Epic Games Store แทน

ผู้เล่นที่ต้องการซื้อเกมเวอร์ชันพีซี มีทางเลือก 2 ทางคือซื้อจาก Ubisoft Store โดยตรง หรือจาก Epic Games Store

โฆษกของ Ubisoft ยังให้ข้อมูลว่าจะวางขายเกมอื่นๆ ของบริษัทกับ Epic Games Store เพิ่มเติมด้วยในปีนี้ แต่ยังไม่ระบุว่ามีเกมใดบ้าง และไม่บอกว่าเป็น exclusive เฉพาะบน Epic Games Store ด้วยหรือไม่

Steam ประกาศหยุดซัพพอร์ตระบบปฏิบัติการ Windows XP และ Windows Vista โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 เป็นต้นไป

Valve ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะไคลเอนต์ของ Steam ต้องเรียกใช้ฟีเจอร์บางอย่างของ Chrome ซึ่ง เลิกซัพพอร์ต Windows XP/Vista มาตั้งแต่ปี 2016

มาตรการของ Valve จะหักดิบโดยบังคับให้ Steam หยุดทำงานบน Windows XP/Vista ไปเลย ใครที่ยังอยากเล่นเกมอยู่คงต้องอัพเกรดระบบปฏิบัติการกันสักหน่อยครับ

ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า Windows 7 มีระยะซัพพอร์ตจากไมโครซอฟท์เหลืออีกแค่ 1 ปีแล้ว

แวะเวียนมาช่วงปลายปีอีกครั้ง กับสถิติเกมยอดนิยมบน Steam ประจำปี 2018 ทั้งในแง่รายได้และจำนวนผู้เล่น

Steam ไม่เปิดเผยตัวเลขรายได้และอันดับเช่นกับปีก่อนๆ แต่ใช้วิธีแยกกลุ่มอันดับ โดยกลุ่ม Platinum (รายได้สูงสุดอันดับ 1-12) มีดังนี้ (เรียงตามตัวอักษรชื่อเกม ไม่ได้เรียงตามลำดับยอดขาย)

เกมวางแผนยึดครองอวกาศ Sins of a Solar Empire: Rebellion แจกฟรีบน Steam แบบจำกัดเวลา

Sins of a Solar Empire เป็นผลงานของบริษัท Ironclad Games โดยภาคหลักออกในปี 2008 และได้คะแนนรีวิวค่อนข้างสูง (87% บน Metacritic) ส่วนภาค Rebellion เป็นภาคเสริมภาคที่สาม และเป็นเกมแบบ stand-alone ที่เล่นโดยไม่ต้องมีภาคหลัก ออกในปี 2012

ในโอกาสที่ภาคเสริมตัวที่สี่ Minor Factions ซึ่งเป็น DLC ของ Rebellion วางขาย ต้นสังกัด Ironclad จึงกระตุ้นตลาดด้วย การแจกภาคสาม Rebellion ฟรีบน Steam เป็นเวลา 48 ชั่วโมง (ปกติราคา 39.99 ดอลลาร์) ใครอยากกดรับสิทธิ์ก็ต้องรีบกันหน่อยครับ

ประเด็นน่าสนใจใน การเปิดตัว Epic Games Store คือหนึ่งในทีมงานเบื้องหลัง Epic Games Store เป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Steam Spy

Steam Spy เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมสถิติบน Steam ที่ Valve ไม่ได้เปิดเผยเป็นตัวเลขรวมๆ (เช่น ยอดขายของแต่ละเกม ระยะเวลาเฉลี่ยที่เล่นเกมนั้น) แต่ทาง Steam Spy ใช้วิธีรวบรวมจากข้อมูลสาธารณะของผู้เล่นเป็นรายคน แล้วมาวิเคราะห์และสรุปเป็นสถิติอย่างไม่เป็นทางการอีกทีหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม Steam Spy เพิ่งประกาศปิดตัวในช่วงต้นปีนี้ หลัง Valve ปรับวิธีการแสดงผลข้อมูลของผู้เล่นใหม่ ทำให้ไม่สามารถเก็บสถิติด้วยวิธีเดิมได้

Epic Games เป็นค่ายเกมล่าสุดที่หันมาเปิดธุรกิจร้านขายเกมแข่งกับ Steam โดยใช้ชื่อว่า Epic Games Storeเบื้องต้นจะให้บริการเกมบนพีซีและแมคก่อน ตามด้วยเกมบนแอนดรอยด์ในปี 2019

จุดเด่นของ Epic Games Store ที่จูงใจนักพัฒนาเกมให้มาขายด้วย คือส่วนแบ่งรายได้ที่ใจป้ำกว่าร้านขายเกมรายอื่นๆ ถึง 88% (ตัวเลขของ Steam ให้นักพัฒนา 70%)

เมื่่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ได้จัดพิธีลงนามเซ็นสัญญาด้าน esports ขึ้นที่สนาม Mercedes-Benz Arena โดยมีหน่วยงาน esports ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกันอย่างพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดจำหน่ายอย่าง Tencent, NetEase และ Perfect Wrold รวมถึงแพล็ตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง PandaTV และ ShihouTV โดยเป้าหมายของการลงนามครั้งนี้คือการทำให้เซี่ยงไฮ้มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางด้าน esports ของโลก

Valve ประกาศเปลี่ยนแปลงการคิดส่วนแบ่งรายได้ของเกมที่ขายผ่าน Steam มีผลสำหรับยอดขายตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2018 เป็นต้นไป จากเดิมที่คิดอัตราคงที่ 30% มาเป็นแบบใหม่ที่ให้ประโยชน์กับเกมที่ได้รับความนิยมสูง

รายละเอียดคือส่วนแบ่งจะยังคงเป็น 30% จนกระทั่งเกมนั้นทำรายได้สูงกว่า 10 ล้านดอลลาร์ ส่วนแบ่งจะลดเหลือ 25% และหากทำรายได้สูงกว่า 50 ล้านดอลลาร์ ส่วนแบ่งจะลดลงอีกเหลือ 20%

จากเงื่อนไขใหม่นั้นเห็นได้ว่าผู้ได้ประโยชน์คือผู้พัฒนาเกมรายใหญ่ ซึ่ง Valve บอกว่า จากการรับฟังและพยายามปรับหาสมดุล Valve จึงต้องปรับเงื่อนไขนี้ เพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงดึงดูดกับนักพัฒนารายใหญ่ที่สร้างผลกระทบในวงกว้างต่อไป

เทศกาลกดเกมมาดอง Steam Autumn Sales เริ่มแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาในบ้านเราและจะสิ้นสุดในวันที่ 28 พฤศจิกายนเวลา 1.00 (ตี 1)

รายการเกมดังๆ ที่ลดและน่าสนใจก็มี

แฮกเกอร์ผู้ใช้นามแฝงว่า moskowsky รายงานช่องโหว่ของเว็บ partner.steamgames.com ที่หากส่งพารามิเตอร์บางอย่าง (ไม่เปิดเผย) จะทำให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดคีย์ของเกมใดๆ ก็ได้ ทั้งหมดที่ผู้ผลิตเกมเคยสร้างคีย์ขึ้นมา

ช่องโหว่นี้รายงานไปยัง Valve ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และทาง Valve แก้ไขแล้วเสร็จในเวลาเพียง 4 วัน และมอบรางวัลให้ moskowsky เป็นเงินตามความร้ายแรง 15,000 ดอลลาร์ และมีโบนัสเพิ่มอีก 5,000 ดอลลาร์

4A Games สตูดิโอพัฒนาเกมจากยูเครน เจ้าของผลงานซีรีส์ Metro ประกาศแจกเกม Metro 2033 (ภาคแรกสุด) ฟรีบน Steam โดยมีเวลากดรับสิทธิ 24 ชั่วโมงเท่านั้น (ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว)

เกมตระกูล Metro เป็นเกมแนว FPS ที่ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง Metro ของ Dmitry Glukhovsky นักเขียนชาวรัสเซีย โดยเป็นเหตุการณ์ของรัสเซียในอนาคตหลังสงครามนิวเคลียร์ ฝั่งของเกมมีด้วยกัน 3 ภาคคือ Metro 2033 (ออกปี 2010), Metro: Last Light (ออกปี 2013) และ Metro Exodus ภาคใหม่ล่าสุดที่มีกำหนดวางขายต้นปี 2019

หลังจาก Steam ประกาศปรับนโยบาย อนุญาตให้เกมเกือบทุกชนิดขึ้นมาขายได้ ซึ่งรวมถึงเกมสำหรับผู้ใหญ่ ที่ก่อนหน้านี้ต้องขายเกมเวอร์ชันไม่โป๊เปลือย แล้วออกแพตช์แก้ตามทีหลัง

ล่าสุดเรากำลังจะได้เห็นเกมสำหรับผู้ใหญ่ที่โป๊มาตั้งแต่แรก ไม่ต้องมีแพตช์ใดๆ ขึ้นมาขายบน Steam แล้ว นั่นคือเกม Negligee: Love Stories ที่จะเริ่มขายในวันที่ 15 กันยายนนี้

หลายคนอาจไม่รู้ว่า Valve มีสิ่งที่เรียกว่า Steam Playหรือการซื้อเกมครั้งเดียว เล่นได้บนทุกระบบปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็นวินโดวส์ แมค ลินุกซ์ ซึ่งปัจจุบันมีเกมบน Steam มากกว่า 3,000 เกมที่รองรับลินุกซ์ด้วย

แต่ถ้าเกมนั้นไม่มีเวอร์ชันลินุกซ์จะทำอย่างไร? อดเล่นงั้นหรือ? แนวทางของ Valve จึงเป็นการทำให้เกมบนวินโดวส์สามารถเล่นบนลินุกซ์ได้เยอะที่สุด ด้วยการปรับปรุง Wine ในชื่อใหม่ว่า "Proton"

For Honor เกมแอ๊คชั่นไฟติ้งของค่าย Ubisoft ที่รวมเหล่านักรบยุคโบราณ ไม่ว่าจะเป็นซามูไร อัศวิน ไวกิ้ง ฯลฯ เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีบน Steam แบบจำกัดเวลาจนถึงวันที่ 28 ส.ค.

For Honor มีทั้งโหมดเล่นคนเดียวและมัลติเพลเยอร์ โดยขายตัวเกมพื้นฐาน Starter Edition ในราคา 15 ดอลลาร์ และมี Edition อื่นๆ ที่เพิ่มฟีเจอร์ ไอเทม ฮีโร่ ฯลฯ เข้ามาจากรุ่นพื้นฐาน

การแจกเกมฟรีใน Steam ครั้งนี้เป็นการแจก Starter Edition ให้ฟรี (รับสิทธิแล้วใช้ได้ตลอดไป) และช่วงเดียวกันนี้ Ubisoft ยังลดราคา Edition อื่นๆ ลงอีก 75% ใครสนใจก็เข้าไปรับสิทธิได้จาก Steam

ที่มา - Steam News

หลังจากที่หลุดมาก่อนกำหนดไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด Steam TVเว็บไซต์ไลฟ์สตรีมเกมที่ต่อยอดมาจากระบบ Steam Broadcasting ก็ได้เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มต้นด้วยการถ่ายทอดสดรอบ Main Event ของงาน The International 2018 พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ชมติดตามเกมได้อย่างสนุกยิ่งขึ้น

หลังจากปล่อยให้ Twitch ยึดครองหัวหาดแพล็ตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิ่งเกมมาเป็นเวลานาน ล่าสุด Valve เตรียมท้าชนในสมรภูมินี้ โดยเล็งเปิดตัว Steam TVแพล็ตฟอร์มถ่ายทอดสดเกมของตัวเอง

เว็บไซต์ของ Steam TV ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะเวลาสั้นๆ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยถ่ายทอดสดรอบ Group Stage ของงาน The International 2018 ก่อนที่จะถูกปิดลงในเวลาต่อมาอย่างรวดเร็ว โดย Steam TV จะมีระบบในการพูดคุยกันระหว่างผู้ชม รวมถึงการสร้างกลุ่มพูดคุยของเพื่อนใน Friend List ของเรา ถึงเกมที่กำลังสตรีมอยู่

ถือว่าเซอร์ไพร์สอย่างมากเมื่อ Bethesda ประกาศยืนยันว่าเกม Fallout 76 ทั้งเวอร์ชันเบต้าและเกมเต็มบนพีซี จะไม่วางจำหน่ายผ่าน Steam เหมือนที่ผ่านๆ มา แต่จะผ่าน Bethesda.net ซึ่งเป็น launcher ของตัวเองเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ Bethesda มีท่าทีพยายามผลักดัน Bethesda.net ของตัวเองและลดความสำคัญของ Steam ลง อย่างการปล่อย Fallout Shelter บนพีซีผ่าน Bethesda.net ก่อนปล่อยผ่าน Steam ถึง 8 เดือน ทว่าการตัดขาดกับ Steam ครั้งนี้ถือว่ากล้าหาญและเซอร์ไพร์สพอสมควร

Fallout 76 เวอร์ชันเบต้าจะปล่อยให้ทดลองเล่นในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะเปิดให้เล่นเฉพาะคนที่พรีออเดอร์เท่านั้น โดย achievement และเซฟเกมทุกอย่างจะยังคงอยู่เมื่อเกมเต็มถูกปล่อยออกมา

Penny McDonald เด็กหญิงวัย 7 ขวบ ถามพ่อที่เป็นนักพัฒนาเกมว่า วันหนึ่งเธอจะสร้างเกมได้เหมือนพ่อหรือไม่ ซึ่ง "วันหนึ่ง" นั้นไม่ใช่อนาคตแต่อย่างใด เพราะมันเกิดขึ้นแล้วโดย Penny สร้างเกมที่มีชื่อว่า Answer The Question ปล่อยลงใน Steam

Penny เรียนทำเกมจากหนังสือคู่มือที่พ่อให้ และทำเกมโดยใช้ QBASIC ในเครื่องพีซี Windows 98 เกมที่เธอทำเป็นเกมตอบคำถามคณิตศาสตร์ง่ายๆ ซึ่ง Penny สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดีเพราะเล่นเกม The Sims บ่อย

แต่การอัพเกมลง Steam ไม่ง่ายขนาดนั้น ตอนแรก Steam ปฏิเสธ เพราะระบบต้องการโลโก้ที่ดี พ่อจึงให้ Penny ลองออกแบบโลโก้มา ซึ่งระบบก็รับรองให้แล้ว เป็นตัวอักษร Answer The Question ที่ Penny ลองวาดเขียนในกระดาษ

Abstractism เป็นเกมล่าสุดที่ถูก Steam ถอดออกจากสโตร์ด้วยข้อหาที่ค่อนข้างร้ายแรง คือถูกตั้งข้อสงสัยว่าตัวเกมใช้เครื่องผู้เล่นขุดคริปโต รวมถึงการขายไอเท็มปลอม

YouTuber ที่ชื่อ SidAlpha เป็นคนพบความผิดปกติของการทำงานเบื้องหลังของตัวเกม และได้โพสต์ถามบนสตรีมก่อนที่ Okalo Union ทีมพัฒนาจะตอบ (น่าจะตั้งใจขำๆ) ว่าไม่ได้ขุดบิทคอยน์เพราะล้าสมัยไปแล้ว แต่ขุดเหรียญ Monero แทน ก่อนจะคอมเมนท์จริงจังว่าไม่ได้ใช้ขุดคริปโต และผู้เล่นน่าจะตั้งค่ากราฟิคสูง ซึ่งใช้ทั้งพลังซีพียูและจีพียู