NVIDIA เปิดตัวจีพียูเกมมิ่ง GeForce RTX ซีรีส์ 50 สถาปัตยกรรม Blackwell ตามความคาดหมาย โดยมาพร้อมกันทั้งจีพียูฝั่งเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กในคราวเดียว
พื้นฐานฮาร์ดแวร์ของ GeForce RTX 50 ประกอบด้วย
- CUDA Coreปรับปรุงให้ทำงานกับ Neural Shaders ดีขึ้น มีจำนวนสูงสุด 21,760 คอร์บน 5090
- RT Core รุ่นที่ 4มีสมรรถนะสูงขึ้น 2 เท่าจากรุ่นก่อนใน Ada Lovelace
- Tensor Core รุ่นที่ 5รองรับทศนิยมแบบ FP4 ที่เริ่มใช้ใน Blackwell ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ประมวลผล AI เร็วขึ้น ใช้หน่วยความจำน้อยลง
NVIDIA เปิดตัวคอมพิวเตอร์ Project DIGITS ที่ภายในเป็นชิป GB10 Superchip สถาปัตยกรรม Grace Blackwell ชูจุดขายว่าเราทุกคนสามารถรันโมเดลขนาด 200B ด้วยตัวเอง
GB10 เป็นซีพียู NVIDIA Grace 20 คอร์ แรม 128GB รวมกันระหว่างซีพียูและจีพียู สตอเรจ NVMe 4TB ทำให้หากรันโมเดลย่อแบบ FP4 ก็จะรันโมเดลขนาดใหญ่ 200B ได้ในตัว แถมรองรับเน็ตเวิร์ค ConnectX เชื่อม DIGITS สองตัวเข้าด้วยกัน รันโมเดล 405B ได้
Project DIGITS เริ่มวางขายเดือนพฤษภาคมนี้ ราคาเริ่มต้น 3,000 ดอลลาร์หรือประมาณหนึ่งแสนบาท
ที่มา - NVIDIA
รวมข่าวหลุดจีพียูใหม่ที่จะเปิดตัวในงาน CES 2025
เริ่มต้นด้วย NVIDIA GeForce RTX 5090 ตัวแรงที่สุด มีข่าวว่าจะให้แรม DDR7 ขนาด 32GB, การใช้พลังงาน (TGP หรือ Total Graphics Power) 600W, ตัวบอร์ด PCB เป็นแบบ 14 เลเยอร์, พอร์ตเชื่อมต่อ PCIe 5.0
5090 จะใช้ชิป GB202 ตัวสูงสุดของสถาปัตยกรรม Blackwell มีขนาดชิป 744 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งใหญ่ขึ้นมาจากชิป AD102 ที่ใช้ใน 4090 ขนาด 608 ตารางมิลลิเมตร
ใกล้งาน CES 2025 เข้ามาเรื่อยๆ ย่อมมีข่าวหลุดของ GeForce RTX ซีรีส์ 50 สถาปัตยกรรม Blackwell ออกมาเรื่อยๆ
ล่าสุด เว็บไซต์ฮาร์ดแวร์ Wccftech รายงานว่า Jensen Huang จะขึ้นเวทีเปิดตัว GeForce RTX 5090, 5080, 5070 พร้อมกันทั้งจีพียูฝั่งเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊ก
สินค้าที่จะวางจำหน่ายก่อนใครคือ GeForce RTX 5080 ที่ให้แรม 16GB GDDR7 วางขายช่วงกลางเดือนมกราคม ส่วน GeForce RTX 5090 รุ่นท็อปสุดแรม 32GB จะตามมาในอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือนมกราคมหรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ จีพียูทั้งสองตัวจะมีทั้งรุ่น Founders Edition และรุ่นที่ขายผ่านแบรนด์พาร์ทเนอร์
Supermicro รายงานว่าบอร์ดได้แต่งตั้งให้ BDO USA มาเป็นบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระของบริษัท แทน Ernst & Young ที่ขอลาออกจากการเป็นผู้ตรวจสอบก่อนหน้านี้โดยมีผลทันที ทั้งนี้ BDO เป็นบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีรายใหญ่แห่งหนึ่งที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก
นอกจากนี้ Supermicro บอกว่าบริษัทได้ยื่นแผนต่อตลาดหลักทรัพย์แนสแดค เพื่อขอให้ขยายเวลาการส่งรายงานให้เป็นไปตามระเบียบของบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหุ้น โดยคาดว่าจะสามารถส่งแบบรายงานประจำปี 10-K สิ้นสุดมิถุนายน 2024 และแบบรายงานผลประกอบการไตรมาส 10-Q สิ้นสุดกันยายน 2024 ได้เร็ว ๆ นี้ เพื่อให้หุ้นของบริษัทยังสามารถซื้อขายได้ต่อไปไม่ถูกเพิกถอน โดยรอการอนุมัติจากตลาดหุ้นแนสแดคต่อไป
เว็บไซต์ข่าวไอที The Information รายงานข่าวไม่เป็นทางการว่า จีพียู NVIDIA Blackwell รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทั้งโลกรอคอย เจอปัญหาความร้อนสูง เมื่อนำไปใช้ในเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องอัดจีพียูลงไปเยอะๆ (72 ตัว) จนทำให้ NVIDIA ต้องปรับดีไซน์การออกแบบแร็คเซิร์ฟเวอร์หลายรอบ และส่งผลให้การส่งมอบ Blackwell ต้องล่าช้าออกไป
ปัญหาความร้อนนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ที่ต้องการเซิร์ฟเวอร์ความหนาแน่นสูง ใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น Google, Microsoft, Meta ซึ่งตามข่าวบอกว่า NVIDIA กำลังทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เหล่านี้ รวมถึงผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์รายต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาความร้อน
ที่งาน NVIDIA AI Summit Japan วันนี้ Masayoshi Son ซีอีโอ SoftBank และ Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ประกาศว่าทาง SoftBank จะซื้อ NVIDIA DGX SuperPOD ที่ใช้ชิป Blackwell ตัวแรกโลก หลังจากรันแล้วจะกลายเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์สำหรับประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ที่แรงที่สุดในญี่ปุ่น
ทาง SoftBank ไม่ได้ประกาศเจาะจงว่าจะนำเครื่องนี้ไปทำอะไรบ้าง แต่บริษัทในกลุ่มมีจำนวนมากที่ทำงานด้านปัญญาประดิษฐ์อยู่ เช่น SB Intuitions กำลังพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ LLM ภาษาญี่ปุ่น
นอกจาก SoftBank แล้ว บริษัทญี่ปุ่นหลายรายก็ออกมาประกาศติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ NVIDIA กันเพิ่มเติมรองรับความต้องการด้านปัญญาประดิษฐ์ เช่น
Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ยอมรับว่า ชิป Blackwell มีปัญหาเรื่องการออกแบบจริงๆ ตามข่าวลือก่อนหน้านี้ ทำให้ต้องเลื่อนการส่งมอบออกไป
Huang ให้ข้อมูลว่ามันเป็นข้อบกพร่องของการออกแบบชิป ทำให้อัตราการผลิตสำเร็จ (yield) ต่ำลง ปัญหานี้เกิดจากฝั่ง NVIDIA 100% แต่บริษัทก็ร่วมมือกับ TSMC ช่วยกันแก้ปัญหานี้ได้สำเร็จแล้ว ตอนนี้ TSMC สามารถกลับมาผลิต Blackwell ได้เต็มกำลัง และจะเริ่มส่งมอบสินค้าได้ในไตรมาส 4 ปีนี้
Huang อธิบายว่า Blackwell มีความซับซ้อนสูง ต้องใช้ชิปย่อย 7 ตัวทำงานร่วมกัน และต้องเริ่มกระบวนการผลิตชิปพร้อมๆ กันด้วย ขนาดของตัวชิปนั้นใหญ่ขึ้นกว่าชิปรุ่นก่อนหน้ามาก
Foxconn ประกาศสร้างเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน โดยจะใช้ ชิป NVIDIA Blackwell GB200 รุ่นใหม่ล่าสุด ด้วย
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Foxconn จะใช้ ระบบเซิร์ฟเวอร์ NVIDIA GB200 NVL72 หนึ่งตู้มี 64 แร็ค ใช้ซีพียู NVIDIA Grace 36 ตัว, จีพียู Blackwell 72 ตัว ถ้านับรวม Tensor Core ทั้งหมดรวมกัน 4,608 คอร์, เชื่อมต่อกันด้วย NVLink แบนด์วิดท์ 130 TB/s
มีข่าวลือของ GeForce RTX 5090 และ 5080 สองเรือธงรุ่นถัดไปของสถาปัตยกรรม Blackwell ออกมาทาง @kopite7kimi นักปล่อยข่าวหลุดฮาร์ดแวร์ชื่อดัง
ข้อมูลจาก @kopite7kimi บอกว่า
NVIDIA เผยผลเบนช์มาร์คแรกของ จีพียู Blackwell B200 โดยเป็นเบนช์มาร์ค MLPerf Inference: Datacenter ที่นิยมใช้กันในวงการ AI ทดสอบกับ โมเดล Llama 2 70B ผลคือได้ประสิทธิภาพต่อจีพียูสูงกว่าชิป H100 (Hopper) ประมาณ 4 เท่าตัว
ผลการทดสอบของ NVIDIA ใช้เครื่องซีพียู Xeon Silver 4410Y ร่วมกับชิป B200 แรม 180GB ได้คะแนนออกมาดังนี้
มีรายงานจาก The Information อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า NVIDIA ได้แจ้งลูกค้ารายใหญ่ เช่น ไมโครซอฟท์, Meta และกูเกิล ว่าชิปกราฟิกสำหรับลูกค้าองค์กรรุ่นล่าสุดตระกูล Blackwell จะเลื่อนส่งมอบจากกำหนดเดิม อย่างน้อย 3 เดือน เนื่องจากพบข้อบกพร่องบางอย่างในการออกแบบ และกำลังแก้ไข
ก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่าชิปตระกูล Blackwell จะเริ่มส่งมอบได้เร็วที่สุดภายในปลายปีนี้ ถ้าเป็นไปตามรายงานนี้แปลว่า NVIDIA จะเริ่มส่งมอบได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2025
Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ขึ้นพูดในงาน Computex ที่ไต้หวัน ประกาศข่าวว่า NVIDIA จะเปลี่ยนมาออกจีพียูใหม่ปีละครั้ง แทนธรรมเนียมเดิมที่ออกของใหม่ทุก 2 ปี
จีพียูของปี 2024 ใช้ชื่อว่า Blackwell ตามที่แถลงข่าวไปแล้วเมื่อต้นปี จากนั้นปีหน้า 2025 จะเป็น Blackwell Ultraรุ่นอัพเกรด (นี่มัน Tick-Tock รึเปล่านะ) แล้วปี 2026 จะเป็นจีพียูใหม่โค้ดเนม Rubinและสุดท้ายในแผนคือปี 2027 มากับ Rubin Ultra
Amazon Web Services (AWS) ออกมาปฏิเสธข่าวจาก รายงานของ Financial Times ที่บอกว่าตอนนี้ AWS ได้เข้าสู่การเปลี่ยนผ่านจีพียูในศูนย์ข้อมูลทั้งหมด โดยระงับคำสั่งซื้อ จีพียู Hopper ทั้งหมด เพื่อรอเปลี่ยนเป็น Blackwell จีพียูรุ่นล่าสุดที่ NVIDIA เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม ด้วยเหตุผลว่าส่วนต่างราคาไม่มาก จึงเลือกรอรุ่นที่ใหม่กว่า
มีข้อมูลเพิ่มเติมจากการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ของ Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA โดยเขาบอกว่าจีพียูรุ่นใหม่ล่าสุด สถาปัตยกรรม Blackwell จะมีราคาที่ประมาณ 30,000-40,000 ดอลลาร์ต่อจีพียู ซึ่งเขายังบอกว่า NVIDIA ใช้เงินในการวิจัยพัฒนาไปถึง 10,000 ล้านดอลลาร์
NVIDIA ไม่มีการเปิดเผยราคาจีพียูประมวลผลประสิทธิภาพสูงสำหรับเซิร์ฟเวอร์อย่างเป็นทางการ เนื่องจาก NVIDIA จะขายจีพียูกลุ่มนี้ในรูปแบบแพลตฟอร์มโซลูชัน จึงขึ้นอยู่กับรายละเอียดการสั่งซื้อของลูกค้า โดยรุ่นยอดนิยมที่ออกมาก่อนหน้านี้ H100 สถาปัตยกรรม Hopper มีราคาอยู่ที่ประมาณ 25,000-40,000 ดอลลาร์
เมื่อปี 2022 NVIDIA เคยเปิดตัวบอร์ด Drive Thor สำหรับรถยนต์ โดยบอกว่าใช้ซีพียู Grace และจีพียู Ada Lovelace แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป ไม่ได้ออกสินค้าสู่ตลาดจริง (ตัวก่อนหน้านั้นคือ Drive Atlan ที่เปิดตัวปี 2021 ก็ถูกยกเลิกไป )
ในงาน GTC 2024 เมื่อคืนนี้ NVIDIA นำ Drive Thor กลับมาอีกครั้ง รอบนี้อัพเกรดจีพียูมาเป็น สถาปัตยกรรม Blackwell ที่มีสมรรถนะมากขึ้น สามารถเป็นชิปตัวเดียวในรถที่รองรับทั้งงานแสดงผลหน้าจอ และงานขับเคลื่อนอัตโนมัติ
เก็บตกข่าว NVIDIA จากงาน GTC 2024 เมื่อคืนนี้ นอกเหนือจาก จีพียู Blackwell และ เซิร์ฟเวอร์ GB200 ยังมีของใหม่อีกหลายอย่าง
อันที่น่าสนใจคืองานด้านหุ่นยนต์มนุษย์ (humanoid robots) ที่ปล่อยของออกมาทีเดียว 3 อย่างคือบอร์ด Jetson Thor, แพลตฟอร์มเทรนหุ่นยนต์ Isaac เวอร์ชันอัพเกรด และโมเดลพื้นฐานสำหรับสร้างหุ่นยนต์มนุษย์ GR00T (Generalist Robot 00 Technology)
เป้าหมายของ NVIDIA คือการสร้างแพลตฟอร์มที่ให้เราสามารถเทรนหุ่นยนต์เลียนแบบท่าทางของมนุษย์ โดยดูจากคลิปบันทึกภาพของมนุษย์ก่อน จากนั้นให้ไปเทรนในซิมูเลเตอร์โลกเสมือนจนมั่นใจ แล้วค่อยนำมาใช้งานในหุ่นยนต์จริงๆ อีกที
NVIDIA โชว์เซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง NVIDIA GB200 NVL72 โดยเน้นว่ามันมีพลังประมวลผลและแรมเพียงพอที่จะฝึกปัญญาประดิษฐ์ขนาด 1.8T ได้ในตัว
เซิร์ฟเวอร์นี้ขายเป็นตู้สำเร็จ โดยแต่จะโหนดในตู้ คือ GB200 compute tray ที่มีชิปซีพียู Grace สองชุด คู่กับ จีพียู Blackwell อีก 4 ตัว เชื่อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ แต่ละโหนดมีพลังประมวลผล 80 petaflops และแรมอีก 1.7TB ในตัว การคอนฟิกตู้ ใส่ NVLink Switch System สำหรับเชื่อมแต่ละโหนดเข้าด้วยกัน โดยหนึ่งตู้ติดตั้ง compute tray 18 ชุด รวมเป็น GPU ทั้งหมด 72 ตัว
NVIDIA เปิดตัวชิปกราฟิกรุ่นต่อไปในชื่อสถาปัตยกรรม Blackwell เป็นชิประดับองค์กร โดยชิป B200 มีทรานซิสเตอร์ภายในถึง 208,000 ล้านทรานซิสเตอร์ ตัวชิปจริงๆ เป็นชิปสองตัวประกบเข้าด้วยกันด้วยการเชื่อมต่อความเร็วสูงระดับ 10TB/s แบบเดียวกับ Apple Silicon ในตระกูล Ultra ตัวชิปเชื่อมต่อกับภายนอกด้วย NVLINK รุ่นที่ 5 รองรับการเชื่อมต่อกับชิปกราฟิกภายนอกแบนวิดท์ 7.2TB/s
ภายในหน่วยประมวลของ Blackwell รองรับข้อมูลชนิดใหม่ FP6 และ FP4 สำหรับการรันโมเดลโดยเฉพาะ ทำให้เมื่อรันโมเดลแบบ FP4 สามารถประมวลผลข้อมูลได้ถึง 20,000 TFLOPS ขณะที่ Hopper ได้ที่ 4,000 TFLOPS FP8 และ Blackwell ประมวลผลได้ 10,000 TFLOPS ที่ FP8
ฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ Blackwell ได้แก่
ช่องยูทูบฮาร์ดแวร์ชื่อดัง 2 ช่องคือ RedGamingTech และ Moore’s Law Is Dead ให้ข้อมูลเพิ่มเติมของ GeForce RTX ซีรีส์ 50 โค้ดเนม Blackwell ดังนี้
ช่องฮาร์ดแวร์และบัญชีทวิตเตอร์สายฮาร์ดแวร์หลายราย เริ่มทยอยโพสต์ข้อมูลของ NVIDIA "Blackwell" สถาปัตยกรรมจีพียูรุ่นถัดไปที่จะออกช่วงปลายปี 2024
Blackwell ยังคงธรรมเนียมเดิมของ NVIDIA ที่ใช้โค้ดเนมเป็นชื่อนักวิทยาศาสตร์ โดยรอบนี้คือ David Blackwell นักคณิตศาสตร์ชาวอเมริกัน ที่มีผลงานด้านทฤษฎีเกม และความน่าจะเป็น