European Central Bank

Tags:
Node Thumbnail

ธนาคารกลางยุโรป หรือ European Central Bank (ECB) ประกาศความร่วมมือกับบริษัท 5 แห่ง พัฒนาต้นแบบ UI ที่เป็นไปได้ของการใช้ สกุลเงิน "ยูโรดิจิทัล" (digital euro) ที่มีระยะเวลาทดสอบนาน 2 ปี

ECB กำลังพัฒนาระบบหลังบ้าน (back-end infrastructure) ของการชำระเงินเป็นยูโรแบบดิจิทัล และจะให้บริษัทเหล่านี้สร้างต้นแบบของระบบหน้าบ้าน (front-end) มาเชื่อมกับระบบของ ECB ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป 5 กรณี ได้แก่

Tags:
Node Thumbnail

Mairead McGuinness กรรมการยุโรปด้านการเงิน ประกาศแผนเสนอกฎหมาย "ยูโรดิจิทัล" โดยจะเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะในเร็วๆ นี้ และตั้งเป้าผ่านกฎหมายในรัฐสภายุโรปช่วงต้นปี 2023

ร่างกฎหมายที่ McGuinness กล่าวถึง จะให้อำนาจกับธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank หรือ ECB) ในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency หรือ CBDC)

ฝั่งของ ECB ก็เริ่มงานพัฒนาต้นแบบ "ยูโรดิจิทัล" ไปบ้างแล้ว โดยยังไม่ฟันธงว่าจะเลือกโซลูชันทางเทคนิคแบบใด (มีทางเลือกทั้งแบบ centralized/decentralized ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลาง) และคาดว่าจะออกต้นแบบได้ช่วงปลายปี 2023

Tags:
Node Thumbnail

ธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank หรือ ECB) ประกาศเริ่มโครงการทดสอบ "เงินยูโรดิจิทัล" (digital euro) เป็นระยะเวลานาน 24 เดือน เพื่อทดสอบและแก้ปัญหาต่างๆ ก่อนตัดสินใจว่าจะใช้งานจริงๆ หรือไม่หลังโครงการทดสอบเสร็จแล้ว

โครงการยูโรดิจิทัล เป็นการสร้างเครือข่ายจ่ายเงิน-โอนเงินแบบดิจิทัล ลักษณะคล้ายๆ พร้อมเพย์ของบ้านเรา (และไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเงินคริปโต) เงินยูโรที่วิ่งผ่านระบบเป็นเงินที่ออกโดยธนาคารกลาง เหมือนกับเงินยูโรปกติ แต่อยู่ในรูปดิจิทัลเท่านั้น (ใน เอกสารแนวคิดของ ECB บอกว่าดิจิทัลในที่นี้ เป็นได้ทั้งผ่านอินเทอร์เน็ต และผ่านสมาร์ทการ์ด)

Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

Yves Mersch กรรมการของธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank - ECB) ออกมาเตือนว่าหากเงินสกุล Libra ที่นำโดยเฟซบุ๊กได้รับความนิยม ECB จะสูญเสียอำนาจในการควบคุมนโยบายทางการเงิน และกระทบต่อสภาพคล่องของธนาคารในเขตเงินยูโร

นอกจากประเด็นการแข่งขันทางอำนาจแล้ว Mersch ยังชี้ถึงประเด็นความเป็นส่วนตัว ว่าเงิน Libra สร้างโดยเฟซบุ๊กที่ยังต้องชี้แจงแนวทางการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวที่ผิดพลาดจนเป็นภัยต่อประชาธิปไตยต่อสภาในสหรัฐฯ และยุโรป และ Mersch หวังว่าประชาชนยุโรปจะไม่ละทิ้งระบบชำระที่ปลอดภัยที่มีอยู่เดิมไปตามการล่อลวงของเฟซบุ๊ก