กูเกิลประกาศออกฟีเจอร์ Galaxy Watch for Kids ให้กับนาฬิกา Galaxy Watch 7 รุ่น LTE สำหรับการใช้งานของเด็กๆ
ฟีเจอร์ Galaxy Watch for Kids จะเปิดให้เด็กๆ ใช้นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ได้โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน โดยสามารถโทรจากนาฬิกาไปหาพ่อแม่ได้ ส่วนพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถควบคุมการใช้งานได้ผ่าน Google Family Link ที่มีอยู่แล้ว เช่น ควบคุมแอพที่ใช้งาน ดูพิกัดของลูกบนแผนที่ จำกัดความสามารถของนาฬิกาในช่วงเวลาเรียน
จุดเด่นของ Galaxy Watch for Kids คือหน้าปัดนาฬิกาที่สดใส และแอพสำหรับเด็กๆ ผ่านการทดสอบจากครูแล้ว สามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Play
Reuters รายงานว่ารัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมเสนอออกกฎหมายห้ามเยาวชนจำกัดการใช้งานโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม ตามรอย ออสเตรเลียที่อนุมัติกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ใช้โซเชียลมีเดียทุกกรณีไปก่อนหน้านี้
Alexander Sabar เจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการสื่อสารและดิจิทัล บอกว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองเด็กในทุกด้าน โดยกำลังอยู่ในช่วงการหารือมาตรการ เช่น การกำหนดเกณฑ์อายุของเยาวชน ซึ่งจะไม่ได้จํากัดการเข้าถึงโซเชียลมีเดียของเด็กทั้งหมด
สมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของอินโดนีเซีย บอกว่าเกือบ 50% ของเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งบางคนในกลุ่มใช้งานโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, และ TikTok
รัฐสภาของออสเตรเลียลงมติรับรองกฎหมายจำกัดการใช้งานโซเชียลมีเดียของเยาวชนแล้ว ตามที่ มีข้อเสนอ ออกมาก่อนหน้านี้ โดยมีผลให้เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ไม่สามารถใช้งานโซเชียลมีเดียได้ทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Instagram, Snapchat หรือ Facebook
กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในอีก 12 เดือนข้างหน้า เพื่อให้โซเชียลมีเดียปรับปรุงระบบตรวจสอบอายุผู้ใช้งาน กำหนดบทลงโทษสำหรับฝั่งผู้ให้บริการ เป็นเงินค่าปรับสูงสุด 50 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 1,100 ล้านบาท) หากไม่สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนในการตรวจสอบอายุผู้ใช้งานได้ แต่ไม่มีบทลงโทษสำหรับเยาวชนกับผู้ปกครอง
รัฐสภาออสเตรเลียเตรียมพิจารณารับรองกฎหมายห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี ใช้งานโซเชียลมีเดียในทุกกรณี หลังจากรัฐบาลเสนอกฎหมายนี้ ซึ่งหากกฎหมายผ่านการลงมติคาดว่าจะมีผลในอีก 1 ปีข้างหน้า เพื่อให้แพลตฟอร์มโซเชียลเพิ่มเครื่องมือสำหรับตรวจสอบยืนยันอายุผู้ใช้งาน
ประเด็นสำคัญของกฎหมายนี้คือการที่ออสเตรเลียใช้วิธีห้ามทั้งหมดและขยับช่วงอายุขึ้นมา ซึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียปัจจุบันส่วนใหญ่กำหนดเงื่อนไขไม่ให้ผู้ใช้งานต่ำกว่า 13 ปี ใช้งานอยู่แล้ว แต่หากยังเป็นเยาวชน ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ปกครองก่อนจึงสามารถสมัครใช้งานได้ นอกจากนี้หลายแพลตฟอร์มก็เพิ่มตัวเลือกออกแอปเวอร์ชันเยาวชน หรือเพิ่มระบบให้ผู้ปกครองควบคุมการใช้งาน (Parental Control)
Steam Families บริการจัดการคลังเกมภายในครอบครัวเดียวกัน (ลักษณะเดียวกับ Netflix/Disney+) ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2024 และเปิดทดสอบ Beta มาสักพักใหญ่ๆ ได้ฤกษ์เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว
Steam Families ประกอบด้วยฟีเจอร์ 3 อย่างคือ
กูเกิลพัฒนาฟีเจอร์ Parental Control ของ Android ให้มีความสามารถเพิ่มขึ้น โดยพ่อแม่สามารถกำหนดเวลา School Time ให้กับสมาร์ทโฟนและนาฬิกาของลูก เพื่อห้ามใช้มือถือหรือห้ามใช้แอพบางตัวในเวลาเรียน
ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่อยากให้ลูกพกมือถือหรือนาฬิกาเผื่อกรณีฉุกเฉิน จะได้ติดต่อกันได้ แต่ก็ไม่อยากให้ไปเบี่ยงเบนความสนใจในเวลาเรียน สามารถตั้งเวลา School Time เช่น 9.00-15.00 น. โดยช่วงเวลานี้มือถือจะถูกล็อค หรืออนุญาตให้ใช้แอพเฉพาะบางตัวเท่านั้น พ่อแม่สามารถควบคุมได้ผ่านแอพ Family Link ที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน
ฟีเจอร์ที่ผู้ปกครองสามารถควบคุมการใช้งาน iPhone ของเด็กผ่าน Screen Time มีมาตั้งแต่ iOS 12 อย่างไรก็ตามมีรายงานมาตลอด ว่าฟีเจอร์นี้มีช่องโหว่ทำให้เด็กสามารถใช้งานได้นอกเหนือข้อกำหนด ซึ่งแอปเปิลก็บอกว่าได้แก้ไขแล้ว แต่ยังมีรายงานช่องโหว่มาเรื่อย ๆ
ล่าสุด The Wall Street Journal ซึ่ง รายงานปัญหานี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เปิดเผยว่า Screen Time มีช่องโหว่ใหม่ที่ทำให้เด็กสามารถเข้าชมเว็บไซต์ไม่เหมาะสมได้ แม้ผู้ปกครองจะตั้งค่ากำหนดไปแล้ว โดยมีการแชร์วิธีการเข้าถึงช่องโหว่นี้ในโซเชียลหลายช่องทาง
รัฐบาลประเทศสเปนออกร่างกฎหมาย ที่กำหนดให้สมาร์ทโฟนต้องเปิดฟังก์ชันการควบคุมโดยผู้ปกครอง (Perental Control) สำหรับผู้ใช้งานที่เป็นเด็กเป็นค่าเริ่มต้น เพื่อให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมและดูแลการใช้สมาร์ทโฟนของเด็ก
กฎหมายดังกล่าวต้องเข้าสู่การลงมติรับรองจากรัฐสภาพก่อนมีผลบังคับใช้ต่อไป
ในร่างกฎหมายฉบับนี้ยังมีอีกหลายประเด็นเพื่อควบคุมเนื้อหาดิจิทัล โดยระบุว่าภาพปลอมที่สร้างจาก AI ซึ่งมีเนื้อหาทางเพศและภาพเปลือยของเด็ก จะมีความผิดอาญาเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ร่างกฎหมายยังกำหนดเพิ่มอายุขั้นต่ำของเยาวชนที่ใช้โซเชียลมีเดียซึ่งต้องมีการกำกับดูแล เช่น ห้ามคนทั่วไปติดต่อ จากเดิม 14 ปี เพิ่มเป็น 16 ปี
Valve เปิดตัว Steam Family ฟีเจอร์จัดการสมาชิกในครอบครัว ทั้งการแชร์เกมในคลังเกม และการจัดการบัญชีเด็ก (parental control) โดย Steam เคยมีฟีเจอร์ลักษณะนี้อยู่แล้ว แต่แยกกันเป็นสองส่วนคือ Family Sharing และ Family View (parental control) สิ่งที่ประกาศวันนี้คือการนำสองฟีเจอร์มารวมกันเป็นเนื้อเดียว ภายใต้ชื่อแบรนด์เดียวว่า Steam Family
Steam Family Sharing หนึ่งครอบครัวสามารถมีสมาชิกได้สูงสุด 6 คน เล่นเกมในไลบรารีร่วมกันได้ โดยที่ยังแยกโปรไฟล์ เซฟเกม และ achievement ต่างๆ
มีรายงานว่าระบบควบคุมการใช้มือถือของแอปเปิลผ่าน Family Sharing ที่ผู้ปกครองสามารถกำหนดเวลาห้ามใช้ หรือกำหนดแอปที่ห้ามใช้งานใน iPhone, iPad ของเด็กได้ ตอนนี้ค่าที่ตั้งไว้หายไป
ตัวแทนของแอปเปิลยืนยันปัญหานี้ โดยบอกว่ามีผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งพบการตั้งค่า Screen Time ถูกรีเซต ซึ่งแอปเปิลกำลังตรวจสอบปัญหานี้อย่างจริงจัง เพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไข
Discord เปิดตัวเครื่องมือใหม่ในชื่อ Family Centerที่ทำให้เหล่าครอบครัวของเด็ก ๆ เข้าใจสิ่งเด็กในวัยนี้กำลังอินในแพลตฟอร์มนี้ และอนุญาตให้ผู้ใหญ่ดูได้ว่าเด็ก ๆ กำลังทำอะไรอยู่ได้ด้วย
โดยผู้ปกครองจะสามารถดูกิจกรรมล่าสุดของเด็กได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเพื่อน, เซิฟเวอร์ที่เด็กเข้าร่วม, ชื่อและรูปภาพของผู้ใช้งานที่เด็ก ๆ ส่งข้อความไปหาทั้งแบบส่วนตัว และแบบกลุ่ม โดยข้อมูลทั้งหมดจะแสดงใน Family Center Dashboard ที่จะแสดงกิจกรรมย้อนหลังของเด็กได้มากกว่า 7 วัน และทางผู้ปกครองจะได้รับข้อมูลการใช้งานแบบสรุปในแต่ละสัปดาห์ผ่านทางอีเมล์อีกด้วย แต่ทว่าเหล่าผู้ปกครองจะไม่สามารถดูได้ว่าเด็ก ๆ ของพวกเขาพิมพ์ หรือพูดอะไรไว้บ้าง
บริษัท Meta ออกเครื่องมือจัดการของพ่อแม่ผู้ปกครอง (parental control หรือ parental supervision) สำหรับลูกหลานในการใช้แอพแชท Messenger
ฟีเจอร์นี้ใช้ดูระยะเวลาการใช้งานแอพ, รายชื่อเพื่อน, การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว, กำหนดคนที่สามารถแชทได้ (เช่น เฉพาะเพื่อนหรือเพื่อนของเพื่อนเท่านั้น) และดูได้ด้วยหากลูกหลานกดรีพอร์ตเพื่อนคนไหนว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
การใช้งานสามารถเข้าได้ผ่าน Meta Family Center แต่ยังจำกัดเฉพาะสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแคนาดา เพียง 3 ประเทศก่อนขยายเพิ่มในเฟสถัดไป
Epic Games เปิดตัวระบบบัญชีแบบใหม่เรียกว่า Cabined Account หรือ บัญชีจำกัด สำหรับผู้เล่นอายุน้อย ที่ยังทำให้ยังสามารถเล่นเกมต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มได้แบบจำกัดบางอย่าง และผู้ปกครองสามารถควบคุมการใช้งานได้
ในช่วงแรกเกมที่รองรับ Cabined Account ได้แก่ Fortnite, Rocket League และ Fall Guys
Epic Games อธิบายการบังคับใช้ Cabined Account โดยผู้ใช้งานทุกคนจะต้องให้ข้อมูลวันเกิด หากผู้เล่นคนใดอายุน้อยกว่า 13 ปี (หรือแล้วแต่ข้อกำหนดประเทศนั้น ๆ) บัญชีจะถูกเปลี่ยนเป็น Cabined และให้ใส่อีเมลของผู้ปกครอง เพื่อให้ตรวจสอบและอนุมัติการใช้งาน
บัญชีแบบ Cabined จะยังเข้าถึงคอนเทนต์และการซื้อในอดีตได้ทั้งหมด แต่ฟีเจอร์หลายอย่างจะถูกควบคุมเช่น แชต หรือการซื้อของในเกม เป็นต้น
กูเกิลออกของใหม่ด้าน parental control ให้พ่อแม่คอยควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ไอทีของลูกๆ ได้สะดวกขึ้น 2 อย่างดังนี้
อย่างแรกคือ แอพ Family Link บนมือถือ ที่ใช้จัดการ parental control ของเครื่องลูกๆ ได้รับการดีไซน์ใหม่ แสดงเครื่องมือจำกัดเวลาใช้งาน (screen time limits) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมอยู่ในหน้าแรกของแอพเลย ตั้งค่าการใช้งานหน้าจอเฉพาะของวันนี้ (Today's limit) เช่น การต่อเวลาให้เป็นพิเศษในวันหยุด
Roblox อาจเป็นที่รู้จักในฐานะเกมสำหรับเด็กๆ แต่เมื่อฐานผู้เล่นเด็กเดิมโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ Roblox เองต้องปรับตัวตาม จากสถิติของ Roblox เองระบุว่าตอนนี้มีผู้เล่น 58.5 ล้านคนต่อวัน ในจำนวนนี้ เกินครึ่งมีอายุมากกว่า 13 ปีแล้ว และกลุ่มผู้เล่นที่เติบโตเร็วที่สุดมีอายุ 17-24 ปี
สิ่งที่ Roblox จะทำในฐานะแพลตฟอร์มคือเพิ่มระบบเรตติ้งตามอายุของผู้เล่น (age recommendations) ในโลกแต่ละโลกที่ถูกสร้างขึ้นมา (ภาษา Roblox เรียก "experiences") เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นเกมตามอายุที่เหมาะกับตัวเอง และในอีกทางพ่อแม่ผู้ปกครองก็คัดกรองเกมที่เหมาะกับอายุของลูกได้ง่ายขึ้น ผ่านฟีเจอร์ Parental Control
Life360 แอพช่วยติดตามพิกัดของเด็กๆ ให้คนในครอบครัวได้รับทราบ (เป็นบริษัทอเมริกัน แต่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ASX ของออสเตรเลีย) ถูกอดีตพนักงานออกมาแฉว่าแอบขายข้อมูลพิกัดให้กับบริษัทข้อมูล (data broker) ถือเป็นการละเมิดข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้อย่างแรง
อดีตพนักงานของบริษัทขายข้อมูลชื่อ Cuebiq และ X-Mode ยืนยันว่าข้อมูลจาก Life360 ถือเป็นแหล่งข้อมูลรายใหญ่เรื่องพิกัดของบุคคล และบอกว่าเป็นข้อมูลที่ละเอียดแม่นยำมาก บริษัทอื่นที่ซื้อข้อมูลพิกัดจาก Life360 คือ Arity, Safegraph โดยบริษัทเหล่านี้ซื้อข้อมูลจากหลายๆ แหล่งเพื่อนำไปขายต่อให้ธุรกิจโฆษณาที่อยากยิงโฆษณาแบบระบุตัว (targeted advertising) อีกที
กูเกิลเอาใจผู้ใช้กลุ่มเด็กและครอบครัว เปิดตัวโหมดเด็ก Google Kids Space บนแท็บเล็ต Android บางรุ่น เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของเด็กๆ มากขึ้น
Kids Space มีหน้าตาคล้ายกับ YouTube Kids คือสีสันสดใส มีตัวการ์ตูนดึงดูดความสนใจของเด็กๆ รวมถึงแยกเนื้อหาแนะนำในหมวดต่างๆ เช่น เกม หนังสือ คลิปวิดีโอ และกิจกรรมนอกแท็บเล็ต (เช่นการประดิษฐ์สิ่งของ) ตัวอินเทอร์เฟซหน้านี้ยังเชื่อมกับฟีเจอร์ด้านครอบครัวอื่นๆ ของโลก Android เช่น Family Link ที่ให้ผู้ปกครองจัดการเวลาใช้งานแท็บเล็ตของลูกๆ หรือเนื้อหาสำหรับเด็กๆ บน Google Play ที่คัดมาแล้วว่าครูแนะนำ
เมื่อเดือนมีนาคม ไมโครซอฟท์ประกาศรีแบรนด์ Office 365 เป็น Microsoft 365 พร้อมเพิ่มแอพ 2 ตัวให้ลูกค้าฝั่งคอนซูเมอร์คือ Microsoft Teams (ที่เดิมมีเฉพาะลูกค้าธุรกิจ) และแอพตัวใหม่ Family Safety เพื่อความปลอดภัย (หลายด้าน) ของคนในครอบครัว
ตอนนี้แอพ Microsoft Family Safety เริ่มเปิดทดสอบในวงจำกัดแล้วทั้งบน Android/iOS โดยมีฟีเจอร์ตามที่ประกาศไว้ ได้แก่ รายงานสถิติการใช้หน้าจอ (ได้ทั้งมือถือ, พีซี และ Xbox), ควบคุมเนื้อหาที่เด็กๆ เข้าถึงได้ (content control) และการแชร์พิกัดของคนในครอบครัวแบบเรียลไทม์
ของใหม่อีกอย่างที่ไมโครซอฟท์เปิดตัวมาคู่กับ Microsoft Teams สำหรับคอนซูเมอร์ คือแอพใหม่ชื่อ Microsoft Family Safety บนสมาร์ทโฟน Android/iOS
Family Safety เป็นการรวมชุดฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยสำหรับคนในครอบครัวหลายอย่าง ได้แก่
TikTok กลายเป็นโซเชียลที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นและเด็กๆ ที่อาจมีพฤติกรรมเลียนแบบที่เป็นอันตรายได้
TikTok จึงประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Family Safety Mode เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองควบคุมการใช้งานของลูกหลานได้ละเอียดขึ้น ฟีเจอร์ของ Family Safety Mode มีดังนี้
- Screen Time Management จำกัดเวลาใช้งานแอพ
- Direct Messages จำกัดคนที่สามารถส่ง DM ไปได้ เพื่อป้องกันการติดต่อกับคนแปลกหน้า
- Restricted Mode จำกัดการแสดงผลคอนเทนต์ในระบบที่อาจไม่เหมาะกับเด็กๆ (ยังไม่มีรายละเอียดว่าคอนเทนต์ประเภทใดบ้าง)
Family Safety Mode จะเปิดให้ผู้ใช้ TikTok ในสหราชอาณาจักรก่อน ส่วนประเทศอื่นๆ ยังไม่ระบุช่วงเวลา
วันนี้ YouTube ส่งอีเมลแจ้งเตือนเจ้าของช่อง (ครีเอเตอร์) ทุกราย ตั้งค่าคลิปของตัวเองว่าเป็นคลิปที่สร้างมาเพื่อเด็กหรือไม่
ประกาศของ YouTube ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเริ่มแจ้งมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (อ่านรายละเอียดในบทความ ช่องเด็กยังไม่อวสาน YouTube ยืนยันไม่ได้ห้ามเด็กแสดงในคลิป แต่ต้องระบุชัดว่าเป็นคลิปให้เด็กดู ) สรุปสาระสำคัญคือ
iOS 13.3 ที่ออกอัพเดตมาไม่กี่วันก่อน มี ฟีเจอร์ใหม่ ตัวหนึ่งคือ Communication Limits ที่ผู้ปกครองสามารถกำหนดการใช้โทรศัพท์ของเด็กได้ ซึ่งควบคุมได้ถึงรายชื่อคนที่สามารถติดต่อได้ และช่วงเวลาใช้งานแต่ละแอป อย่างไรก็ตามดูเหมือนฟีเจอร์ดังกล่าวจะยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์แบบนัก
CNBC พบบั๊กในคุณสมบัติดังกล่าว กรณีรายชื่อผู้ติดต่อไม่ได้ตั้งค่าจัดเก็บไว้ที่ iCloud เป็นค่าเริ่มต้น หากมีข้อความจากคนแปลกหน้าส่งเข้ามา เด็กสามารถเพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อคนนั้นเข้าไปได้เองโดยไม่ต้องขอรหัสผ่านจากผู้ปกครอง นอกจากนี้หากเด็กใช้ Apple Watch ยังใช้ช่องโหว่ให้เพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อผ่าน Siri บน Apple Watch ก็ได้
LINE ประกาศปรับระดับอายุขั้นต่ำของผู้ใช้งานแอพเป็น 12+ หรือต้องมีอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยจะมีผลในเดือนธันวาคม 2019 และมีผลเฉพาะ LINE บนแพลตฟอร์ม iOS เพียงแพลตฟอร์มเดียว ไม่รวม Android หรือเวอร์ชันเดสก์ท็อป
LINE ให้เหตุว่าเป็นเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้งานที่เป็นเด็ก เพราะผู้ปกครองสามารถกำหนดระดับอายุจากฟีเจอร์ Parental Control ของ iOS ได้ หากเซ็ตไว้ว่าเด็กมีอายุ 4+ หรือ 9+ ก็จะไม่สามารถใช้ LINE ได้
ที่มา - LINE
แอปเปิลเปิดตัวฟีเจอร์จำกัดและลดเวลาการใช้มือถือ Screen Time ตั้งแต่ iOS 12 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งประโยชน์ด้านหนึ่ง ก็คือให้พ่อแม่ควบคุมเวลาใช้งานโทรศัพท์ของลูกได้ด้วย อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าเด็ก ๆ ก็พยายามหาช่องโหว่ของ Screen Time จนได้อยู่ดี
เว็บไซต์ Protect Young Eyes ได้ เปิดเผย (อย่างน้อย) 12 วิธี ที่เด็กสามารถใช้เพื่อข้ามการควบคุมของ Screen Time อาทิ เปลี่ยน Time Zone, ดู YouTube ผ่าน iMessage ไปจนถึงลบและลงแอปใหม่ พร้อมแนะนำวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นให้พ่อแม่ด้วย
AIS เปิดตัว AIS Secure Net ซึ่งเป็นบริการสำหรับผู้ปกครองในการคัดกรองและป้องกันเนื้อหาบนโลกออนไลน์ โดย AIS Secure Net เป็นแพ็คเกจที่ให้บริการครอบทับไปกับแพ็คเกจดาต้าที่ใช้งานอยู่ โดยจะมี 2 บริการย่อยคือ AIS Secure Net Kids สำหรับเด็กและ AIS Secure Net ปกติ โดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มและเป็นบริการแบบ opt-in
บริการทั้ง 2 ตัวจะเหมือนกันคือเมื่อผู้ใช้พิมพ์ URL เข้าเว็บไซต์ผ่านเครือข่าย AIS (AIS Fibre และ AIS Super WIFI จะรองรับในอนาคต) ระบบจะแสดงป๊อปอัพแจ้งเตือนและบล็อกไม่ให้เข้าถึงเว็บไซต์อันตราย เสี่ยงต่อภัยคุกคามไซเบอร์หรือเป็นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก อย่างไรก็ตามหากใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน AIS ระบุว่ารองรับเฉพาะแอปที่สามารถเก็บ IP จาก DNS ได้เท่านั้น