หลังต่อสู้คดีมายาวนานหลายปี ในที่สุดแอปเปิลก็ ตัดสินใจ จ่ายเงินให้ Qualcomm เพื่อยุติคดีความ พร้อมทำสัญญาซื้อชิปเซ็ตต่อเป็นเวลาหลายปี ซึ่งในวันเดียวกันก็มีข่าวว่า อินเทลประกาศ ถอนตัว จากธุรกิจชิปโมเด็ม 5G ของสมาร์ทโฟน ซึ่งใครก็ต้องเชื่อมโยงสองเรื่องนี้เข้าหากัน และคำตอบก็คือถูกต้องแล้ว
โดย Nikkei รายงาน โดยอ้างแหล่งข่าวภายในว่า แอปเปิลอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือกมากนัก บริษัทต้องการจำหน่าย iPhone รุ่นที่รองรับเครือข่าย 5G ในปี 2020 แต่ก่อนหน้านี้เลือกใช้ชิปโมเด็มจากอินเทลเพียงรายเดียว และอินเทลก็ดูเหมือนจะผลิตชิป 5G ให้แอปเปิลไม่ทันตามแผนงาน
แหล่งข่าวบอกว่าแอปเปิลและ Qualcomm มีการเจรจากันก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์แล้ว เงื่อนไขสำคัญคือ Qualcomm ต้องส่งมอบชิป 5G ให้แอปเปิลได้ทันสำหรับเปิดตัว iPhone ในปี 2020 ซึ่งพอดีลลงตัว ก็มีการแจ้งไปยังอินเทล ทำให้อินเทลประกาศถอนตัวจากธุรกิจชิป 5G ในเวลาเดียวกันนั่นเอง
นักวิเคราะห์มองว่าข้อตกลงของสองบริษัทนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม ที่จะลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีกันต่อ เพราะสองยักษ์ใหญ่ได้ยุติคดีความกันแล้ว
ที่มา: Fast Company
Comments
ก่อนนี้ไม่มีทีท่าว่าจะยอมกัน คุยกันง่าย เพราะอันนี้ที่ @PandaBaka โพสท์ไว้ด้วยไหมhttps://www.reuters.com/article/us-apple-qualcomm/us-judge-rules-qualcomm-owes-apple-nearly-1-billion-rebate-payment-idUSKCN1QV3EV
Modem Red Dragon ดีกว่าเร็วกว่า ถูกต้องแล้วที่ยอมความและจ่ายเงินค่าเสียหาย
รุ่นต่อไปนอกจากมี 5G อยากให้มีสแกนนิ้วบนจอสักที เบื่อระบบจ้องมือถือมาก
ควรใส่มาทั้งคู่อะครับ
เขาทำได้หมดแหละ แต่จะจ่ายกันไหวหรือเปล่า ทิมคุกไม่ได้กล่าว
แค่ faceid เพิ่มมาหลายหมื่น ใต้จอมือถือคงทะลุเกือบแสนเลยมั้งครับ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
แพงเท่าไหร่ก็ซื้อครับ มีคนเคยกล่าวไว้
ดูจากแนวทาง Apple คงเลือกใส่ตัวเลือกเดียวนะครับ คง FaceID ที่พัฒนามาเอง (ถึงต้นฉบับจะซื้อเขามาก็นะครับ)
จากการใช้โทรศัพท์สองระบบ ทั้งสแกนนิ้วมือและสแกนหน้า บอกเลยว่า มีอย่างเดียวจะงงน้อยกว่าครับ เพราะถ้าเปิดใช้สองอันพร้อมกันนี่ ตอนยกมือถือขึ้นมาเลือกไม่ถูกเลยว่าจะให้ปลดล๊อกด้วยอะไร แต่โดยปกติแล้วตอนยกขึ้นมาคงจะปลดล๊อกด้วยหน้าไปแล้ว การสแกนนิ้วคงไม่จำเป็นอีก
ส่วนตัวที่เป็นปัญหาคือ มัน งง ครับว่ามือถือมันปลดล๊อกแล้วรึยังแล้วมันทำให้การใช้งานมีปัญหาเช่น โดยปกติถ้าเราปลดล๊อกด้วยนิ้วมันจะเข้าหน้าโฮมเลย อันนี้เป็นทั้ง iOS และ แอนดรอยทีนี้เราจะทำด้วยความเคยชินคือการหยิบมือถือขึ้นมาแล้วแตะไปที่ fingerprint reader เลย ตัวเครื่องจะปลดล๊อกแล้วเข้าหน้าโฮมเลย แต่พอใช้คู่กับระบบสแกนหน้า พอหยิบขึ้นมามันจะปลดล๊อกแล้วต้องปัดขึ้นเพื่อเข้าหน้าโฮม ทีนี้ถ้าเราทำด้วยความเคยชิน เราเอานิ้วไปแตะ fingerprint reader มันจะไม่เข้าหน้าโฮมแล้วเพราะมันปลดล๊อกแล้วและด้วยความแม่นของระบบสแกนหน้า ทุกครั้งที่ยกมันก็ปลดล๊อกตลอด เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปใช้นิ้วปลดล๊อกเลย เว้นว่าการลอกอินเข้าแอพที่ยังต้องใช้สแกนนิ้วอยู่เพราะสแกนหน้าของแอนดรอยมันยังไม่ปลอดภัยมากพอ
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า มีอย่างเดียวน่าจะปวดหัวน้อยกว่าสำหรับ iOS การที่มีสองอย่างแล้วเราจะต้องมาตั้งค่าเยอะ ๆ นี่ดูไม่เหมือน iOS User เลยครับ มีอย่างเดียวไม่ต้องตั้งค่าอะไรมากน่าจะจบกว่า
Huawei ทำขายไม่ครับ หรือว่าทำลง CPU ตัวเองอย่างเดียว?