หลังจาก Twitter เปลี่ยนโลโก้เป็น X ผู้คนก็เริ่มจับตามองค่าย Meta ว่าสนใจจะลอกอะไรอีกหรือไม่ จนมีคนไปค้นเจอว่า Meta เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า X สำหรับบริการโซเชียลมาตั้งแต่ปี 2019
แต่เครื่องหมายการค้า X ตัวนี้ไม่ใช่ของใหม่ที่น่าตกใจ เพราะมันคือโลโก้ของ Mixer บริการไลฟ์สตรีมเกมของไมโครซอฟท์ที่ต้องปิดตัวลงในปี 2020 และโอนลูกค้าไปยัง Facebook Gaming แทน จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ Meta กลายเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า X ของ Mixer ด้วย
Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox และรองประธานฝ่ายเกมมิ่งของ Microsoft ให้สัมภาษณ์กับ Gamesindustry.biz ถึงเรื่องที่ Mixer แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของ Microsoft ต้อง ปิดตัวลงภายในเดือนนี้ ว่าเป็นเรื่องน่าผิดหวัง แต่ไม่เสียใจที่ได้ทำ Mixer เพราะตัดสินใจทำโดยอิงจากข้อมูลที่ดีที่สุดในตอนนั้น ทุ่มพลังกับมันเต็มที่ และสิ่งสำคัญในวงการเกม คือต้องไม่กลัวความล้มเหลว
หลายคนสงสัยว่า Ninja หรือ Tyler Blevins เกมสตรีมเมอร์ชื่อดังจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป หลังไมโครซอฟท์ประกาศปิดตัวแพลตฟอร์มสตรีม Mixer ล่าสุด เขาออกมาโพสต์ว่ากำลังสตรีม Fortnite ที่ YouTube Gaming
ตอนที่ Mixer ปิดตัว ไมโครซอฟท์ระบุว่าจะย้ายกลุ่มสตรีมเมอร์ Mixer ไปใช้ Facebook Gaming แทน ซึ่งทั้งสองบริษัทก็เพิ่งเซ็นสัญญาความร่วมมือด้านเกมกันไปก่อนหน้านี้
จากข่าว ไมโครซอฟท์ปิดบริการไลฟ์สตรีม Mixer ย้ายผู้ใช้ไป Facebook Gaming เว็บไซต์ GeekWire ไปสัมภาษณ์ Matt Salsamendi ผู้ร่วมก่อตั้ง Mixer ( ช่วงก่อนหน้านั้นใช้ชื่อว่า Beam พอไมโครซอฟท์ซื้อแล้วจึงเปลี่ยนชื่อเป็น Mixer) ว่าคิดอย่างไรในเรื่องนี้
ไมโครซอฟท์ประกาศปิด Mixer บริการไลฟ์สตรีมสำหรับเกมเมอร์ ที่ซื้อกิจการตั้งแต่ปี 2016 ( ชื่อในขณะนั้นคือ Beam ) ด้วยเหตุผลว่าไม่สามารถขยายฐานผู้ใช้ได้มากอย่างที่คิด
ไมโครซอฟท์ระบุว่าจะย้ายกลุ่มสตรีมเมอร์ Mixer ไปใช้ Facebook Gaming แทน ซึ่งทั้งสองบริษัทก็เพิ่งเซ็นสัญญาความร่วมมือด้านเกมเพิ่มเติมด้วย เน้นที่การนำ Project xCloud บริการเกมสตรีมมิ่งไปเชื่อมกับ Facebook Gaming ให้สามารถสลับโหมดจากการดูไลฟ์มาเป็นการเล่นเกมได้ทันที (แบบเดียวกับที่ Stadia จะทำกับ YouTube)
King Gothalion เป็นสตรีมเมอร์เกม มีคนติดตามบน Twitch 1 ล้านราย ออกมาประกาศว่าตัวเองจะย้ายช่องทางสตรีมไป Mixer ของไมโครซอฟท์ โดยก่อนหน้านี้มี Ninja และ Shroud ย้ายไปก่อนแล้ว
King Gothalion ระบุว่าการทำงานบน Mixer และ Xbox นั้นเขาจะสามารถช่วยสนับสนุนให้สตรีมเมอร์รายอื่นในการทำเงินได้มากขึ้น
จากกรณี Ninja สตรีมเมอร์ชื่อดังย้ายค่ายจาก Twitch ไป Mixer ก็ดูเหมือนเป็นยุทธศาสตร์ที่ได้ผล เพราะเขาใช้เวลาเพียง 5 วันสร้างฐาน subscriber บน Mixer แตะหลัก 1 ล้านคนได้สำเร็จ
ต้องรอดูกันว่าการใช้คนดังอย่าง Ninja ดึงคนไป Mixer จะยั่งยืนในระยะยาวหรือไม่ หรือสุดท้ายจะกลายเป็นแค่จำนวน subscriber ในช่วงแรก แต่ไม่มีคนดูสตรีมจริงๆ เมื่อระยะเวลาผ่านไป
นอกจาก Ninja แล้ว ไมโครซอฟท์ยังทยอยดึงสตรีมเมอร์คนอื่นๆ เข้าสังกัดด้วยเช่นกัน ตัวอย่างอีกคนคือ Dr DisRespect ที่ประกาศย้ายมา Mixer แล้ว
Ninja หรือ Tyler Blevins เกมสตรีมเมอร์ชื่อดังบน Twitch (ผู้ติดตามบน Twitch 14.7 ล้านคน) ประกาศย้ายค่าย ไปสตรีมเกมแบบเอ็กซ์คลูซีฟบนแพลตฟอร์ม Mixer ของไมโครซอฟท์แทน
Ninja แถลงข่าวว่านี่เป็นก้าวต่อไปของเขาในอาชีพสตรีมเมอร์ ตัวเขาเองเริ่มชีวิตเกมเมอร์จากการเล่น Halo การมาร่วมงานกับไมโครซอฟท์จึงเป็นเส้นทางที่ทำได้ทันที เขายังสัญญาว่าจะมีส่วนร่วมกับแฟนๆ มากขึ้น ตามแนวทางของ Mixer ที่เอื้อให้สตรีมเมอร์ปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ ได้มากกว่า Twitch
ทั้ง Ninja และไมโครซอฟท์ไม่ได้เปิดเผยว่าข้อตกลงนี้ ไมโครซอฟท์จ่ายให้ Ninja เท่าไร แต่การดึงตัวดาราดังระดับนี้ไปอยู่บน Mixer ย่อมส่งผลสะเทือนต่อ Twitch อย่างแน่นอน
บริษัทแม่เป็นคู่แข่งกันก็ใช่ว่าจะต้องเป็นศัตรูกันเสมอไป Mixer บริการสตรีมเกมของไมโครซอฟท์ จึงประกาศแจกฟรี PS4 Pro รุ่นพิเศษ Spider-Man มูลค่า 399 ดอลลาร์ให้กับแฟนๆ ที่รีทวีตข้อความในทวิตเตอร์
การแจกเครื่อง PS4 Pro ของไมโครซอฟท์ไม่มีเงื่อนไขใดๆ นอกจากการรีทวีตข้อความ (แต่ผู้รับสิทธิต้องอาศัยอยู่ในสหรัฐเท่านั้น)
ตัวแทนจาก Mixer อธิบายเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ว่า นโยบายของ Mixer คือส่งเสริมการสตรีมเกมแบบไม่จำกัดแพลตฟอร์ม
ถ้ายังจำกันได้ ไมโครซอฟท์มีบริการสตรีมเกมชื่อ Mixer เป็นคู่แข่งโดยตรงของ Twitch และล่าสุดก็กำลังจะมี ช่องทางหารายได้ลักษณะเดียวกัน คือ "การขายเกม" บน Mixer โดยตรง
การสตรีมเกมผ่านเน็ต ถือเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ที่ดีที่ทำให้คนอยากตามไปซื้อเกมนั้นเล่นด้วย Mixer จึงออกฟีเจอร์ Direct Purchase ให้ผู้ชมสามารถกดซื้อเกมได้ตรงๆ ระหว่างตอนดูสตรีมเลย โดยสตรีมเมอร์ก็จะได้ส่วนแบ่ง 5% จากราคาเกม
ฟีเจอร์นี้จะรองรับเกมทั้งหมดที่ขายผ่าน Microsoft Store (ทั้งบนพีซีและ Xbox One) โดยสตรีมเมอร์สามารถเลือกขายเกมตาม edition หรือเฉพาะบาง DLC ได้ด้วย
Mixer บริการสตรีมมิ่งเกมที่ไมโครซอฟท์ รีแบรนด์จาก Beam ที่ซื้อกิจการมา ประกาศออกแอพ Mixer Create บน iOS และ Android เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสตรีมมิ่งเกมจากมือถือได้โดยตรง
นอกจากคุณสมบัติการถ่ายทอดสดเกมบนมือถือ Mixer Create ยังทำงานร่วมกับโปรแกรมบนพีซีและ Xbox One สามารถถ่ายทอดสดพร้อมกับเพื่อนได้ หรือสามารถใช้แอพนี้สำหรับสนทนากับผู้ชม ระหว่างสตรีมมิ่งเกมบนแพลตฟอร์มอื่น
ไมโครซอฟท์ประกาศรีแบรนด์ Beam บริการถ่ายทอดสดเกมแบบสตรีมมิ่ง เป็นชื่อใหม่ Mixer
Matt Salsamendi ผู้ก่อตั้ง Beam ( ที่โดนไมโครซอฟท์ซื้อกิจการมาในปี 2016 ) อธิบายเหตุผลของการเปลี่ยนชื่อว่าเป็นเรื่องเครื่องหมายการค้า เพราะไม่สามารถใช้ชื่อ Beam ทำตลาดทั้งโลกได้ ส่วนชื่อใหม่ Mixer ต้องการให้สะท้อนการปรุงแต่ง (mixing) ประสบการณ์เล่นเกมหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ไมโครซอฟท์จะมอง Mixer เป็นบริการแยกเฉพาะที่ไม่ผูกกับ Xbox หรือ Windows โดยจะขยายไปยังคอนโซลอื่นและอุปกรณ์พกพาด้วย เรื่องนี้มีคนไปถาม Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ว่ามีโอกาสได้เห็น Mixer ลง PlayStation ด้วยหรือไม่ ซึ่งเขาตอบว่า Yep
Beam คือบริการถ่ายทอดเกมสตรีมมิ่ง ที่ไมโครซอฟท์เพิ่งซื้อกิจการมาในปี 2016 และ เริ่มผนวกฟีเจอร์นี้เข้ากับ Windows 10 และ Xbox One
ปัจจุบันแอพ Beam มีให้ดาวน์โหลดบน iOS, Android และเวอร์ชัน Windows 10/Xbox กำลังจะตามมาในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มที่ถูกทิ้ง (เช่นเคย) คือ Windows 10 Mobile
จากที่เคยมีข่าวลือว่า Windows 10 Creators Update จะมี Game Mode เพิ่มเข้ามา ล่าสุดข่าวเป็นทางการมาแล้ว โดยไมโครซอฟท์จะเพิ่มฟีเจอร์เกี่ยวกับเกมให้ Creators Update ทั้งหมด 4 ด้านด้วยกัน
Beam บริการสตรีมมิ่งเกมที่ ถูกไมโครซอฟท์ซื้อ ไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ประกาศปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับแพลตฟอร์มของตนเอง ดังนี้
- ปรับปรุง UI ของเว็บไซต์
- ปรับปรุงความเร็วในการโหลดหน้าเพจ
- ปรับปรุงการใช้งานหน้าเว็บผ่านอุปกรณ์พกพา
Microsoft ประกาศว่า ตอนนี้ทางบริษัทได้เข้าซื้อ Beam ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิ่งเกมสดแบบ interactive
Beam เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการสตรีมมิ่งเกม ซึ่งแทนที่จะเป็นแบบ passive หรือฝั่งผู้ใช้ดูแล้วแชทบอกคนที่กำลังสตรีมมิ่ง มาเป็นการที่ให้ผู้ชมมีส่วนร่วมได้ด้วย รวมทั้งการตั้งค่าของ Beam นั้นง่ายมาก ๆ และออกแบบมาให้ครอบคลุม สามารถใช้งานได้กับเกมทุกรูปแบบ
ทีมงานของ Beam จะเข้ามาอยู่กับ Xbox ซึ่งจะช่วยให้บริการ Xbox Live มีชีวิตชีวามากขึ้น ซึ่งทีม Xbox เผยว่าจะทำการแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับ Beam และวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการสตรีมมิ่งเกมแบบ interactive ในอนาคตต่อไป และแนะนำว่าถ้าใครที่ไม่เคยลองใช้ Beam ให้ลองใช้ดูสักครั้ง