ในช่วงที่มีการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้แอพประชุมออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน และก็ยังมีแอพวิดีโอคอลล์ใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอด ทำให้ Cloudflare เปิดตัวบริการใหม่ในชื่อ Cloudflare Calls สำหรับรันแอพลักษณะนี้โดยเฉพาะ

Cloudflare Calls ใช้เทคโนโลยี WebRTC ที่กูเกิลเป็นผู้ผลักดันและเป็นโอเพนซอร์ส โดย WebRTC มีจุดเด่นคือทำงานแบบ peer to peer ไม่ต้องผ่านเซิฟเวอร์กลาง จึงมี latency ค่อนข้างต่ำ แต่ในขณะเดียวกันข้อจำกัดของ WebRTC ก็คือยิ่งจำนวนคนในวงสนทนาเยอะ แต่ละเครื่องก็ต้องมี overhead ในการรับส่งข้อมูลมากขึ้นตาม (เพราะเป็น peer to peer ต้องเชื่อมหากันหมด) และหากในวงสนทนามีคนที่อินเทอร์เน็ตช้า ก็จะทำให้คุณภาพการสนทนาโดยรวมแย่ไปด้วย วิธีแก้คือใช้ SFU (selective forwarding unit) เข้ามาเป็นตัวกลางคอยจัดการการรับส่งข้อมูลระหว่างคนในวงสนทนาแต่ละราย

เป็นที่รู้กันดีว่าช่วงหลังมานี้ Safari เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่รองรับมาตรฐานเว็บแบบใหม่ๆ น้อยมาก (Safari is the new IE) แต่ล่าสุดหลังจากงาน WWDC 2017 ก็มีข่าวดีว่า แอปเปิลประกาศรองรับเทคโนโลยี WebRTC สำหรับคุยด้วยเสียงและวิดีโอผ่านเว็บแล้ว

โครงการ WebKit เลือกใช้งานเฟรมเวิร์คโอเพนซอร์ส LibWebRTC จัดการเครือข่าย, รองรับตัวเข้ารหัสเสียง Opus และวิดีโอ H.264, เรียกใช้ไมโครโฟนและกล้องผ่าน Media Capture and Streams API ของ W3C

การที่เอนจิน WebKit รองรับ WebRTC จะส่งผลให้ Safari ใน macOS High Sierra และ iOS 11 สามารถใช้คุยวิดีโอผ่านเว็บได้ ตอนนี้มีผู้ให้บริการบางราย เช่น TokBox และ BlueJeans รองรับแล้ว

ที่มา - WebKit

Mozilla ประกาศถอดฟีเจอร์ Firefox Hello การสนทนาด้วยเสียง-วิดีโอบนเทคโนโลยี WebRTC ที่ใส่เข้ามาใน Firefox 34 เมื่อปลายปี 2014

การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นใน Firefox 49 รุ่นหน้า โดยผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม Hello จะถูกถอดออกโดยอัตโนมัติ และ Mozilla แนะนำให้ย้ายไปใช้ซอฟต์แวร์แชทผ่าน WebRTC ตัวอื่นแทน เช่น Talky, Cisco Spark, Appear.in, Jitsi Meet

Mozilla ไม่ได้ให้เหตุผลของการถอดฟีเจอร์ครั้งนี้ แต่เราก็คงรู้ๆ กันว่าเป็นฟีเจอร์ที่ไม่มีใครใช้ (เอาแค่พูดถึงหรือรู้จัก ก็ยังแทบไม่มีเลย)

Skype มีไคลเอนต์บนลินุกซ์มานานมาก แต่ความสามารถด้อยกว่าบนแพลตฟอร์มอื่นๆ พอสมควร วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เพราะ Skype เปิดตัวไคลเอนต์สำหรับลินุกซ์ตัวใหม่ (ใช้ชื่อว่า Skype for Linux Alpha) ที่มีหน้าตาและความสามารถใกล้เคียงกับแพลตฟอร์มอื่นขึ้นมาก

Skype for Linux มี UI แบบเดียวกับบนพีซี, ทำงานได้รวดเร็ว รองรับการแชร์ไฟล์ ภาพ วิดีโอ emoji และใช้ระบบโทรศัพท์-วิดีโอคอลล์บนสถาปัตยกรรมใหม่ของ Skype โดยตรง สามารถใช้สนทนากับ Skype เวอร์ชันอื่นๆ ได้ ยกเว้น Skype ตัวเก่าบนลินุกซ์ที่ยังใช้สถาปัตยกรรมเดิม

ไมโครซอฟท์เปิดให้ลองใช้งานบริการ Skype for Web บน Microsoft Edge แล้ว ซึ่งสามารถใช้งานได้แบบไม่ต้องลงปลั๊กอินเสริม โดยใช้งานร่วมกับ ORTC API และโทรได้เลยหากกำลังอยู่ในหน้าเว็บไซต์ Outlook.com, Office Online และ OneDrive

ในเวลานี้จะมีข้อจำกัด ดังนี้

• ฟีเจอร์บางตัวยังต้องลงปลั๊กอินเพิ่มอยู่ เช่น การแชร์ภาพหน้าจอ
• คู่สนทนาจำเป็นต้องใช้แอพเวอร์ชันล่าสุด หากต้องการใช้บนแพลตฟอร์มอื่นนอกเหนือจาก Microsoft Edge

ผู้ที่สนใจจะต้องใช้ Microsoft Edge ที่มาพร้อม EdgeHTML เวอร์ชัน 13.10586 หรือใหม่กว่า ส่วนเบราว์เซอร์อื่นๆ อย่าง Google Chrome และ Mozilla Firefox จะตามมาในอนาคต

ที่มา - Skype Blogs

Skype เวอร์ชันเว็บ ( Skype for Web ) เตรียมเปิดให้ผู้ใช้งานสนทนาด้วยเสียง-วิดีโอผ่านเว็บเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งปลั๊กอินใดๆ ในเร็วๆ นี้

ฟีเจอร์นี้เกิดขึ้นได้เพราะ Windows 10 รุ่นทดสอบล่าสุด 10547 รองรับ Object RTC (หรือ ORTC) บน Microsoft Edge ทำให้การสนทนาบน Skype ผ่านเว็บเกิดขึ้นได้ด้วย (ส่วนเบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ ไมโครซอฟท์จะเชื่อมผ่านโพรโทคอล WebRTC ที่เป็นคู่แข่งกันแทน)

ฟีเจอร์นี้จะใช้ได้ทั้งบน Skype for Web, Skype บนหน้า Outlook.com และ Skype for Business

เทคโนโลยี WebRTC คือการสร้างโพรโทคอลสื่อสารแบบเรียลไทม์ผ่านเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องใช้ปลั๊กอิน เทคโนโลยีนี้ถูกผลักดันโดยกูเกิล และปัจจุบันใช้งานได้บน Chrome, Firefox, Opera

ท่าทีของไมโครซอฟท์ต่อ WebRTC พยายามหลีกเลี่ยงการสนับสนุนตรงๆ มาโดยตลอด ( ข่าวเก่า ) แต่ล่าสุดไมโครซอฟท์ก็ประกาศว่าเตรียมพัฒนา IE ให้รองรับ WebRTC แล้ว

Mozilla เดินหน้าลุยตลาดการสนทนาด้วยเสียง/วิดีโอผ่านเว็บด้วย

Mozilla ออก Firefox 33 ทั้งบนเดสก์ท็อปและ Android ของใหม่ได้แก่

Opera for Android มีอัพเดตใหม่ โดยเปลี่ยนมาใช้เอนจิน Chromium เวอร์ชัน 33 และมีฟีเจอร์สำคัญคือ รองรับเทคโนโลยี WebRTC ทำให้สามารถสนทนาแบบวิดีโอบนเว็บมือถือได้แล้ว (Opera แนะนำให้ทดสอบผ่าน appear.in )

นอกจากนี้ Opera ยังเปิดให้ผู้ใช้เลือก UI ของการแสดงปุ่มและแท็บได้หลายแบบ มีทั้งแบบเพิ่มพื้นที่แสดงผลสูงสุด หรือแบบแสดงแท็บตลอดเวลาเพื่อให้สลับแท็บได้สะดวก

สุดท้ายคือฟีเจอร์ปุ่มลัดเข้าเว็บ (Speed Dial) รองรับการสร้างโฟลเดอร์แล้ว

ที่มา - Opera Blog

Cisco เตรียมปล่อยโค้ดการถอดรหัสสัญญาณ H.264 ให้เป็น open source เพื่อสนับสนุนระบบการสนทนาผ่านเว็บตามโครงการ WebRTC

ในปัจจุบันนี้ผู้พัฒนาเว็บเบราว์เซอร์หลายรายได้ปรับปรุงการทำงานให้ผู้ใช้สามารถสนทนาด้วยวิดีโอผ่านเว็บกันได้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ใดๆ เพิ่มเติม ทว่าประเด็นที่สำคัญคือระบบการเข้ารหัสและถอดรหัสสัญญาณภาพและเสียงที่ใช้กันอยู่นั้น บ้างก็นิยมเลือกใช้โค้ดที่ปลอดค่าใช้จ่ายอย่าง VP8 ในขณะที่ผู้พัฒนาบางรายก็หนุนหลังการใช้ H.264 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันแพร่หลายมากกว่า หากทว่าต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสิทธิเพื่อการใช้งาน

Mozilla ออก Firefox 24 มีของใหม่ดังนี้ รองรับทั้งบน Windows, Mac, Linux และ Android

• สนับสนุนรูปแบบ scrollbar แบบใหม่บน Mac OS X 10.7
• แยกหน้าต่างการสนทนาออกมาเป็นอีกหน้าต่างหนึ่ง

• ปรับปรุงการรองรับภาษา SGV ให้ดียิ่งขึ้น

  ส่วนบน mobile นั้น มีฟีเจอร์ใหม่ดังนี้

• เพิ่มการรองรับ WebRTC บน mobile

โดยมีการเพิ่มความสามารถใหม่เข้ามาถึง 3 อย่างด้วยกัน นั่นคือ

1. getUserMedia (gUM) คือ การเข้าถึงกล้องเว็บแคมและไมโครไฟนของผู้ใช้

2. PeerConnection คือ สามารถโทรออกจากหนึ่งเบราว์เซอร์ออกไปที่อื่นไดอีกด้วย

วันนี้กูเกิลประกาศปรับปรุงการเข้ารหัสวิดีโอสนทนาผ่าน Hangout จากเดิมที่ใช้ H.264 อยู่มาเป็น VP8 (ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ WebM) ซึ่งเป็นการเดินเท้าตาม Skype ที่ เปลี่ยนมาใช้ VP8 มาก่อนในปี 2011

โดยทั้งนี้กูเกิลยังอธิบายเพิ่มด้วยว่า การเปลี่ยนมาใช้ VP8 นอกจากจะทำให้การสนทนาแบบวิดีโอความละเอียดสูงทำได้ราบลื่นแล้วนั้น ยังจะทำให้ผู้ใช้สามารถทำสตรีมมิ่งวีดีโอแบบสดๆ ผ่าน Hangout ได้เลยในทันที โดยไม่ต้องหาโปรแกรมหรือเว็บไซต์สำหรับสตรีมมิ่งวิดีโอเพิ่มเติมครับ

Chrome เวอร์ชันเดสก์ท็อปออกรุ่น Chrome 29.0.1547.57 บนทุกแพลตฟอร์ม ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือ

• กล่อง Omnibox (URL bar) แนะนำเว็บไซต์โดยให้คะแนนจากเว็บที่เราเข้าล่าสุดมากขึ้น (recency)
• สามารถรีเซ็ตเบราว์เซอร์สู่สถานะตั้งต้นได้แล้ว (อยู่ใน Settings > Advanced) โดยการรีเซ็ตจะไม่กระทบกับข้อมูล bookmark/theme/app ของผู้ใช้
• รองรับ rich notification บนแมคแล้ว

ส่วน Chrome for Android ก็รองรับ WebRTC แล้ว ( ข่าวเก่าตอนเป็น Beta ) สามารถทดสอบการสนทนาผ่าน WebRTC ได้ที่ AppRTC ครับ

เว็บไซต์ TechRadar ได้สัมภาษณ์ Dean Hachamovitch หัวหน้าทีม Internet Explorer ถึงเบราว์เซอร์รุ่นล่าสุด Internet Explorer 11 ซึ่งมีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับมาตรฐานกลาง (standard) ของเบราว์เซอร์อย่าง WebGL, WebRTC และ Encrypted Media Extensions (EME) ดังนี้

WebGL

Hachamovitch ย้ำอีกครั้งว่าที่ ตอนแรกไมโครซอฟท์ไม่สนับสนุน WebGL บนเบราว์เซอร์เพราะเรื่องความปลอดภัย โดยยกตัวอย่าง WebGL และ Firefox for Mac ที่มีช่องโหว่ซึ่งทำให้เว็บไซต์ที่เป็นอันตรายสามารถดึงข้อมูลที่ผู้ใช้กำลังเปิดอ่านไปได้ แต่ในที่สุดบริษัทก็ตัดสินใจเพิ่ม WebGL บน IE11 เนื่องจาก

กูเกิลอัพเดต Chrome Beta for Android เป็นเวอร์ชัน 29.0.1547.23 ซึ่งมีฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือรองรับโพรโทคอล WebRTC เรียบร้อยแล้ว ทำให้มีโอกาสสูงที่เราจะเห็นบริการ VoIP หรือ video call ผ่านหน้าเว็บที่ใช้กับ Android ในเร็ววันนี้

ความพยายามผลักดัน WebRTC คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าเบราว์เซอร์รายใหญ่จะรองรับทั้งหมด ตอนนี้ยังมีเพียงแค่ Chrome, Opera ยุค Chromium และ Firefox ส่วนไมโครซอฟท์ยังสงวนท่าที แถม เสนอมาตรฐานอื่นมาแข่งกับ WebRTC ด้วย

ที่มา - Chrome Releases

Mozilla ออก Firefox 22 มีของใหม่ดังนี้

Mozilla ประกาศฟีเจอร์ใหม่ๆ ใน Firefox Nightly รุ่นทดสอบดังนี้

WebRTC (RTC ย่อมาจาก Real-Time Communications) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เบราว์เซอร์สามารถสื่อสารแบบ VoIP หรือวิดีโอคอลล์ได้โดยไม่ต้องลงปลั๊กอินเพิ่มเติม ล่าสุดมันพัฒนาไปถึงขั้นที่ Chrome และ Firefox สามารถคุยวิดีโอคอลล์แบบเห็นหน้าระหว่างกันได้แล้ว

ฟีเจอร์ WebRTC มีให้ใช้งานใน Chrome 25 Beta และ Firefox Nightly เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ฝั่ง Firefox ต้องเปิดใช้ใน about:config ก่อน) และโครงการ WebRTC เองก็เตรียม เดโม ที่ให้เบราว์เซอร์ทั้งสองฝั่งสามารถสนทนากันผ่านวิดีโอคอลล์ได้ ผลออกมาดูได้จากวิดีโอครับ

ตัววิดีโอคอลล์คงไม่ใช่เรื่องใหม่ของยุคนี้ แต่วิดีโอคอลล์ด้วยตัวเบราว์เซอร์ล้วนๆ คงแสดงให้เห็นศักยภาพของมาตรฐานเว็บที่กำลังพัฒนาขึ้นมาทดแทนปลั๊กอินเดิมๆ มากขึ้นนั่นเอง

ที่มา - Chromium Blog , Mozilla Hacks

มาตรฐาน WebRTC เป็นมาตรฐานใหม่ที่เสนอเข้าสู่ W3C โดยกูเกิลและได้รับการสนับสนุนจาก Mozilla และ Opera แต่ล่าสุดไมโครซอฟท์ซึ่งสงวนท่าทีต่อมาตรฐานนี้โดยตลอดก็เสนอมาตรฐานใหม่ขึ้นมาแข่งแล้วในชื่อ CU-RTC-Web

ไมโครซอฟท์ชี้ประเด็นที่ต้องเสนอมาตรฐานใหม่ว่า WebRTC ไม่เปิดช่องให้เบราว์เซอร์ทำงานร่วมกับโทรศัพท์ไอพีที่มีการติดตั้งไปจำนวนมากแล้วได้เลย และกระบวนการเชื่อมต่อก็ไปนำมาจากโปรโตคอล SIP ที่ค่อนข้างล้าหลัง

ไมโครซอฟท์อ้างว่ามาตรฐาน CU-RTC-Web นี้จะแก้ปัญหาของ WebRTC โดยเปิดให้นักพัฒนาเข้าควบคุมการส่งข้อมูลได้มากขึ้น เช่น การควบคุมแบนด์วิดท์ที่จะใช้งานจะมี API ทำให้สามารถควบคุมได้ว่าจะส่งข้อมูลมากน้อยแค่ไหน พร้อมกับลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นลงไปหลายส่วน

การอัพเกรด Chrome รอบล่าสุด (ที่คงไม่มีใครนับเลขเวอร์ชั่นแล้ว) ดันเอาฟีเจอร์จากรุ่นพัฒนามาเป็นรุ่นเบต้าหลายอย่าง แต่ที่น่าจับตามองที่สุดคือ getUserMedia API ที่เป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐาน WebRTC มันทำให้เบราว์เซอร์สามารถเข้าถึงไมโครโฟนและกล้องเว็บแคมของคอมพิวเตอร์ได้

WebRTC นั้นถูกวางมาให้เป็นมาตรฐานที่เราจะใช้เบราว์เซอร์และเว็บแอพพลิเคชันเพื่อการโทรศัพท์หรือคุยแบบวิดีโอโดยไม่ต้องใช้โปรแกรมหรือปลั๊กอินเพิ่มเติม นอกจากมาตรฐานส่วนการเข้าถึงกล้องและไมโครโฟนแล้ว ยังมีมาตรฐานส่วน PeerConnection ที่เปิดให้เบราว์เซอร์สามารถเชื่อมต่อกันตรงๆ ได้อีกด้วย มาตรฐานทั้งหมดนั้นใน Chrome รุ่น Dev มีการพัฒนาไปแล้วแต่ยังไม่เปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้น

เว็บไซต์ GigaOM ได้ไปพบประกาศรับสมัครงานตำแหน่ง "Software Development Engineer, Senior, WebRTC" ของทีมสไกป์ ซึ่งระบุไว้ชัดเจนทีมต้องการคนมาช่วยออกแบบและพัฒนาให้จุดเชื่อมต่อหนึ่งที่รองรับ WebRTC สามารถทำงานร่วมกับอีกจุดภายในเครือข่ายสไกป์ได้โดยไม่ต้องใช้เกตเวย์ (แต่ต่อมาประกาศรับสมัครงานก็ถูกปลดออกจากเว็บ Microsoft Careers ไป) คาดว่าประกาศรับสมัครงานนี้คงสอดคล้องกับ ประกาศรับสมัครพนักงานทำ Skype for Browsers ก่อนหน้านี้

มาตรฐาน WebRTC แม้จะยังไม่เรียบร้อยดี แต่ทั้งไฟร์ฟอกซ์และ โครม ก็รองรับกันแล้วทั้งคู่ และที่งานประชุม IETF 83 (งานเดียวกับที่คนร่วมงานไป แก้ Wi-Fi ให้โรงแรม ) ทางมอซซิลล่าก็สาธิตการประชุมวิดีโอบนเว็บผ่าน WebRTC

นอกจาก WebRTC แล้วทางมอซซิลล่ายังสาธิตการล็อกอินด้วย BrowserID ที่มอซซิลล่ากำลังผลักดันเข้าเป็นมาตรฐานอยู่ด้วย

ถึงตอนนี้คงเริ่มชัดเจนว่า WebRTC นั้นจะรองรับจากเบราว์เซอร์หลักทั้งสองตัว คงเหลือ WebKit ที่ยังไม่แสดงตัวว่าจะรับมาตรฐานนี้หรือไม่

ที่มา - Mozilla

หลังจากกูเกิลประกาศ โอเพนซอร์สโครงการ WebRTC ไปเมื่อกลางปีที่แล้ว และได้รับความสนใจจากทั้ง Opera และ Firefox ถึงตอนนี้ Chrome ก็เป็นเบราเซอร์ตัวแรกที่รองรับเทคโนโลยี WebRTC แบบทดลองเป็นตัวแรก

โครงการ WebRTC คือการสร้าง API มาตรฐานสำหรับการดึงไมโครโฟนและเว็บแคมของคอมพิวเตอร์มาใช้งาน ทำให้เว็บสามารถดึงภาพและเสียงจากเครื่องแล้วส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ตามเวลาจริง ทำให้เราสามารถสร้างห้องแชตวิดีโอโดยไม่ต้องการปลั๊กอินใดๆ เพิ่มเติม เช่นที่ทุกวันนี้ Google Talk, และ Hangout ของกูเกิลต้องการปลั๊กอิน Google Talk แยกออกมาเพื่อทำงาน

Paul Kinlan ตัวแทนจากกูเกิลได้กล่าวในงาน Develop in Liverpool 2011 ว่า ในไตรมาสแรกของปีหน้านี้ Chrome จะรองรับการใช้งานจอยเกม เว็บแคม และไมโครโฟนโดยไม่ต้องติดตั้งปลั๊กอินใดๆ เพิ่มเติม และยังมีแผนที่จะรวม