World Economic Forum ออกรายงาน Future of Job สำรวจความเห็นจากนายจ้าง 1,000 ราย ใน 22 อุตสาหกรรม รวมจ้างงาน 14 ล้านคน ถึงมุมมองต่องานในอนาคต 5 ปีข้างหน้าช่วง 2025-2030 ผลพบว่าตลาดแรงงานจะเปลี่ยนไปมากจากระบบอัตโนมัติต่างๆ แต่คนทำงานด่านหน้า เช่น พยาบาล, เซลล์, พ่อครัว จะเพิ่มขึ้น ขณะที่งานด้านธุรการ เช่น แคชเชียร์, คนขายตั๋ว, พนักงานเคาน์เตอร์ธนาคาร, ตลอดจนพนักงานกรอกข้อมูล จะลดลงอย่างหนัก
โดยรวมแล้วแม้จะมีงานที่ต้องการคนเพิ่มขึ้น และงานบางส่วนต้องการคนน้อยลง แต่ผลสำรวจรวมก็ยังเชื่อว่าปริมาณคนทำงานรวมน่าจะต้องการมากขึ้น
Marc Benioff ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Salesforce ให้สัมภาษณ์กับรายการ 20VC ถึงความสำคัญของ AI ในตอนนี้ว่ามันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิศวกรได้ถึง 30% ทำให้ไม่ต้องเพิ่มโปรแกรมเมอร์ แถมยังสามารถลด support engineer ลงได้อีก อย่างไรก็ดีบริษัทยังต้องการเซลล์ไว้อธิบายความสำคัญของ AI ให้ลูกค้าจึงต้องเพิ่มเซลล์อีก 1,000-2,000 คน
ปีที่ผ่านมา Salesforce เปิดตัว Agentforce ทำหน้าที่พนักงานเสมือนที่สามารถตอบคำถามลูกค้าหรือทำงานแทนคนได้บางส่วน Benioff ระบุว่าตอนนี้บริการนี้เป็นตัวเดียวที่สำคัญที่สุด
ที่มา - Salesforce Ben
รัฐสภาสิงคโปร์ผ่านกฎหมาย Platform Workers Act วางแนวทางการคุ้มครองแรงงานที่ทำงานผ่านแพลตฟอร์ม ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงลูกจ้างตามปกติมากขึ้น
กฎหมายบังคับให้นายจ้างต้องคุ้มครองและชดเชยการบาดเจ็บจากการทำงานเหมือนลูกจ้างปกติ และบังคับให้แพลตฟอร์มต้องหักเงินค่าประกันสังคม โดยอัตราการจ่ายจะค่อยๆ เพิ่มจนเท่าพนักงานปกติ และสุดท้ายคือพนักงานและแพลตฟอร์มต่างมีสิทธิตั้งสหภาพของตนเองเพื่อต่อรองกันเอง
กฎหมายนี้มีผลบังคับวันที่ 1 มกราคม 2025
ที่มา - Strait Times
Nascent Information Technology Employees Senate (NITES) กลุ่มเรียกร้องสิทธิแรงงานไอทีในอินเดียออกมาร้องต่อสื่อและรัฐบาลอินเดียถึงพฤติกรรมของบริษัท Infosys ที่ตอบรับใบสมัครพนักงาน แต่กลับบังคับให้เข้าเทรนแบบไม่ได้รับเงินเดือนไปเรื่อยๆ
ทาง NITES ระบุว่า Infosys เริ่มพฤติกรรมแบบนี้ตั้งแต่ปี 2022 โดยจะรับสมัครงานและบอกผู้ที่ผ่านว่าต้องเข้าเทรนออนไลน์ก่อน แต่เมื่อฝึกผ่านแล้วก็แจ้งผู้สมัครว่าต้องเทรนในออฟฟิศโดยไม่ได้รับเงินเดือนต่อไปอีก หากใครไม่ยอมรับก็จะถือว่าเป็นการถอนใบสมัคร
Adecco บริษัทให้บริการเอาต์ซอร์สแรงงานรายงานถึงผลประกอบการประจำไตรมาสพร้อมกับ Denis Machuel ซีอีโอบริษัทออกมาให้ความเห็นว่าตลาดแรงงานไอทีในสหรัฐฯ นั้นถึงจุดตำ่สุดแล้ว แม้จะยังมีข่าวการลดคนอยู่บ้างแต่ก็ไม่น่าจะแย่กว่านี้แล้ว อย่างไรก็ดีการฟื้นตัวนั้นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
รายได้ของ Adecco จากภูมิภาคอเมริกาเหนือลดลงถึง 14% โดยสาเหตุหลักคือแรงงานไอทีและยานยนต์ลดลง ขณะที่แรงงานฝั่งค้าปลีกนั้นยังแข็งแรงอยู่ ตลาดแรงงานไอทีไม่ได้หดตัวไปเสียทั้งหมด ผลประกอบการของ Adecco ในภูมิภาคอื่นๆ ยังเติบโต เช่นเอเชียแปซิฟิก
สมาชิกสหภาพ Karnataka State IT/ITeS Employees Union (KITU) เดินขบวนประท้วงกฎหมาย Karnataka Shops and Commercial Establishment Act ที่แก้ไขกฎหมายแรงงานเฉพาะกลุ่มไอทีและการเอาต์ซอร์สธุรกิจ (business process outsourcing - BPO) ให้สามารถกำหนดชั่วโมงทำงานต่อวันสูงสุด 14 ชั่วโมงรวมช่วงทำงานล่วงเวลา จากเดิมที่กำหนดไว้ 10 ชั่วโมงต่อวัน
Upwork แพลตฟอร์มจัดหางานออกรายงานสำรวจคนทำงานในองค์กร 2,500 คนตั้งแต่ระดับบริหาร, พนักงาน, ไปจนถึงฟรีแลนซ์ ถึงการใช้เครื่องมือ AI ในการทำงาน พบว่าผู้บริหารตื่นเต้นกับ AI และสร้างความคาดหวังกับตัวพนักงานว่าจะต้องสามารถทำงานได้เพิ่มขึ้นขณะที่ตัวพนักงานนั้นอาจจะไม่ได้พร้อมใช้งานเครื่องมือเหล่านั้น และหลายครั้งการใส่เครื่องมือเข้ามาก็ทำให้ทำงานยากกว่าเดิม
ความคาดหวังสูงสุดของผู้บริหารต่อพนักงานคือการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (37%) เมื่อมองฝั่งพนักงานแล้วกลับพบอาการ burn-out จากความพยายามทำตามความคาดหวังขององค์กร และผู้บริหารส่วนใหญ่ (69%) ก็รู้ว่าพนักงานทำงานตามที่คาดหวังได้ลำบาก
Gergely Orosz วิศวกรซอฟต์แวร์ผู้คร่ำหวอดในซิลิกอนวอลเลย์ และผู้เขียนจดหมายข่าววงการซอฟต์แวร์ The Pragmatic Engineer บรรยายในงาน Craft Conference ถึงความเปลี่ยนแปลงของสายงานโปรแกรมเมอร์ว่ากำลังเข้าสู่ช่วงยากลำบากแบบเดียวกับยุคฟองสบู่ dotcom ที่โปรแกรมเมอร์หางานได้ยาก
คณะกรรมการการค้าสหรัฐฯ ประกาศสั่งห้ามนายจ้างเซ็นสัญญาห้ามลาออกไปทำงานกับคู่แข่ง (non-compete clause) โดยครอบคลุมพนักงานทุกระดับ ยกเว้นไว้เพียงผู้บริหารระดับสูงที่เซ็นไว้เดิมก่อนหน้านี้ แต่แม้แต่ผู้บริหารระดับสูงก็ห้ามเซ็นสัญญาใหม่อีก
ที่ผ่านมาสหรัฐฯ มีการจ้างงานที่มีสัญญาข้อนี้ประมาณ 18% หรือ 30 ล้านคน แม้จะไม่ค่อยมีการบังคับใช้นัก หรือที่บังคับบ้างก็มักเป็นพนักงานระดับสูงอยู่แล้ว เมื่อปี 2022 ไมโครซอฟท์ก็เคยออกมายกเลิกสัญญาข้อนี้
FTC คาดว่าโดยรวมการสั่งห้ามนี้จะทำให้ธุรกิจมีการแข่งขันมากขึ้น เกินนวัตกรรม และค่าจ้างโดยรวมของพนักงานเพิ่มขึ้น จนถึงจะเกิดการก่อตั้งบริษัทใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
Elon Musk ในฐานะซีอีโอ Tesla และ xAI ประกาศว่า บริษัทได้ปรับขึ้นเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ กับพนักงานในฝ่ายวิศวกรรรม AI ของ Tesla รวมทั้ง xAI บริษัทที่พัฒนาด้าน AI ของเขาด้วย
สาเหตุนั้น Musk บอกว่า เริ่มจาก Ethan Knight วิศวกรฝ่าย Computer Vision ของ Tesla มีแผนจะลาออกไปอยู่ OpenAI เขาจึงให้ข้อเสนอที่สูงกว่าและไปทำงานที่ xAI แทน เขายังบอกว่า OpenAI นั้นพยายามดึงตัววิศวกร AI จาก Tesla อยู่ตลอด โดยเสนอเงินเดือนที่สูง แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสำเร็จ
Janco Associates บริษัทวิเคราะห์สภาพตลาดแรงงานไอทีในสหรัฐ ออกรายงานสรุปสภาพการจ้างงานด้านไอทีในสหรัฐตลอดปี 2023 ที่เราเห็นข่าวการปลดพนักงานจำนวนมหาศาล (จน Blognone ต้องมีแท็ก Layoff เพิ่มมาเพื่อการนี้) เมื่อหักลบกับการจ้างงานใหม่แล้ว มีการจ้างงานสุทธิเพียง 700 ตำแหน่งเท่านั้น เทียบกับในปี 2022 ที่มีการจ้างงานสุทธิถึง 267,000 ตำแหน่ง
การวิเคราะห์ของ Janco มาจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐอเมริกาโดยตรง (นายจ้างจะจ้างเพิ่มหรือปลดออกต้องแจ้งข้อมูลนี้ไปยังสำนักงานสถิติแรงงาน) จากตารางด้านล่างจะเห็นการจ้างงานติดลบในหลายเดือนของปี 2023 โดยเฉพาะเดือนเมษายนที่หดตัวถึง 13,500 ตำแหน่ง ในขณะที่การจ้างเพิ่มมีเพียงหลักร้อยเท่านั้น
SiFive ผู้ออกแบบชิปในชุดคำสั่ง RISC-V ปลดพนักงานออก 20% จาก พนักงานเดิมที่มากกว่า 500 คน แม้ เพิ่งจะเปิดตัวซีพียูสองรุ่น แต่บริษัทยืนยันว่ายังมีทุนเพียงพอ
ตัวชุดคำสั่ง RISC-V นั้นเปิดให้ทุกคนสามารถพัฒนาชิปที่ชุดคำสั่งเข้ากันได้อย่างเสรี แต่ตัวพิมพ์เขียวซีพียูที่ทำตามคำสั่งนั้นได้มีผู้ผลิตหลายรายซึ่งอาจจะขายหรือเป็นโครงการโอเพนซอร์สก็ได้ ตัวสถาปัตยกรรม RISC-V นั้นได้รับความนิยมแพร่หลายขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะชิปในกลุ่ม IoT ที่มีการใช้งานเป็นวงกว้างแล้ว แต่ชิปประสิทธิภาพสูงนั้นยังคงใช้งานกันในวงจำกัด
- Read more about SiFive ผู้ออกแบบชิป RISC-V ปลดพนักงาน 20%
- 4 comments
- Log in or register to post comments
รัฐบาลแคนาดาประกาศประกาศช่องทางขอวีซ่าทำงานด้วยเงื่อนไขพิเศษคือเป็นผู้ถือวีซ่า H-1B ของสหร้ฐฯ มาก่อน หลังจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ปลดคนจำนวนมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
การขอวีซ่าทำงานด้วย H-1B นี้จะเริ่มวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ผู้ที่ได้รับอนุมัติจะได้รับวีซ่าทำงานแบบไม่จำกัดนายจ้างสูงสุด 3 ปี และครอบครัวมีสิทธิ์ขอวีซ่าผู้อยู่อาศัย, วีซ่าทำงาน, หรือวีซ่านักเรียนแล้วแต่กรณี ทางรัฐบาลแคนาดากำหนดโควต้าช่องทางนี้ไว้ 10,000 รายนับเฉพาะผู้ขอวีซ่าหลัก
แนวทางขอวีซ่าใหม่นี้เป็นหนึ่งในชุดนโยบายดึงคนทำงานสายเทคโนโลยีเข้าแคนาดา ช่องทางขอวีซ่าประเภทอื่นๆ เช่น Innovation Stream สำหรับผู้มีความสามารถเข้าข่ายที่กำหนด, วีซ่าสตาร์ตอัพ, และวีซ่าทำงานสำหรับแรงงานด้าน STEM
Richard Johnson CISO ของธนาคาร Westpac ในออสเตรเลียออกมาระบุว่าธนาคารจะเปลี่ยนแนวทางการเขียนประกาศรับสมัครงานเสียใหม่ หลังพบว่าการเขียนเงื่อนไขที่แน่นเกินไปกระทบกับผู้สมัครหญิงมากเป็นพิเศษ
เขายกตัวอย่างการตั้งเงื่อนไขประสบการณ์ 5 ปีกับเทคโนโลยีบางตัว เมื่อผู้สมัครหญิงมีคุณสมบัติไม่ตรงก็มักจะข้ามไม่สมัครไปเลย ขณะที่ผู้สมัครชายจะลองสมัครดูก่อน โดยหลังจากนี้จะพูดถึงแนวทางการทำงานมากขึ้นแทนที่จะเน้นความสามารถทางเทคนิคบางอย่างเป็นการเฉพาะ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับที่ 8 โดยเพิ่มข้อความมาตราเดียว คือมาตรา 23/1 ระบุถึงแนวทางการจ้างงานที่ลูกทำงานจากที่บ้านหรือทำงานจากสถานที่อื่นๆ โดยเพิ่มรูปแบบการจ้างที่ชัดเจนขึ้น ระบุชัดเจนว่าสามารถทำข้อตกลงจ้างงานเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ได้
นอกจากรูปแบบการจ้างแล้ว มาตรานี้ยังระบุให้ลูกจ้างมีสิทธิปฏิเสธการติดต่อสื่อสารจากนายจ้างไม่ว่าทางใดๆ เมื่ออยู่นอกเวลางาน ยกเว้นได้ทำความยินยอมเป็นหนังสือล่วงหน้าไว้ก่อน และมาตรานี้ยังยืนยันว่าลูกจ้างที่ทำงานจากที่บ้านมีสิทธิเท่ากับลูกจ้างที่ทำงานในสำนักงาน
กฏหมายใหม่นี้มีผลบังคับจริง 30 วันหลังประกาศ
Amazon ประกาศปลดพนักงานเพิ่มเติมอีก 9,000 คนหลักจาก รอบปลายปี 2022 จนถึงมกราคม 2023 นั้นปลดไปแล้ว 18,000 คน โดย Andy Jessy ระบุว่ารอบที่แล้วบริษัทมีเวลาไม่พอที่จะวิเคราะห์ว่าจะลดคนส่วนใดได้บ้างทำให้มีการประกาศเพิ่มในรอบนี้
การปลดคนในรอบนี้กระทบคนทำงานในธุรกิจที่ทำกำไรได้ดีอยู่ด้วย เช่น ธุรกิจโฆษณา และ AWS หลังจากที่รอบก่อนหน้านี้เน้นไปที่ธุรกิจที่ไม่ทำเงินนัก เช่น ร้านค่าปลีก อย่าง Amazon Fresh และ Amazon Go รวมถึงทีมทำผู้ช่วยดิจิทัล Alexa
แม้จะประกาศออกมาแล้วว่าจะปลดคนแต่บริษัทก็ยังไม่ได้ตัดสินใจรายชื่อผู้ที่จะถูกปลดจริงๆ โดยจะแจ้งผู้ถูกปลดกลางเดือนเมษายนไปจนถึงสิ้นเดือน
DigitalOcean ประกาศลดพนักงานโดยปลดพนักงานออกทั้งหมด 11% หรือประมาณ 200 คน แบ่งเป็นสองกลุ่มคือคนที่ถูกปลดทันทีวันนี้ 100 คนและพิจารณาปลดเพิ่มอีก 100 คน โดยผู้บริหารระบุว่าจะพยายามปลดคนรอบเดียวให้จบเพื่อไม่ให้กระทบการทำงานเพิ่มอีก
Yancey Spruill ซีอีโอของบริษัทระบุว่ารายได้ของ DigitalOcean มาจากนอกสหรัฐฯ ถึง 70% จึงจะพิจารณาเน้นการจ้างงานนอกสหรัฐฯ เพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็มีการปรับโครงสร้างให้ลำดับการบัญชาการน้อยลง
- Read more about DigitalOcean เลิกจ้างพนักงาน 11% หรือประมาณ 200 คน
- Log in or register to post comments
Kathy Korevec รองประธานฝ่ายโปรดักของบริษัท Vercel ผู้พัฒนาเฟรมเวิร์ค NextJS เขียนบทความลง GitHub ลงโครงการ The ReadME Project ถึงการสมัครงานว่าระหว่างสัมภาษณ์เธอถามคำถามกับผู้สัมภาษณ์เสมอ และทำให้เห็นภาพว่าควรทำงานกับบริษัทนั้นหรือไม่ แทนที่การสัมภาษณ์จะเป็นการพิจารณาผู้สมัครอย่างเดียว
Kathy เล่าถึง 5 คำถามสำคัญที่เธอถามผู้สัมภาษณ์เธอ
กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา (Department of Labor) ได้เสนอร่างกฎหมายพิจารณาการจัดประเภทคนทำงานในกลุ่ม gig worker อาทิ ไรเดอร์ผู้ให้บริการผ่านแอปสั่งอาหาร, คนขับรถ Uber หรือ Lyft รวมทั้งแรงงานอื่นๆ ที่ทำงานในลักษณะเป็น "คู่สัญญา" กับบริษัทต่างๆ ในการส่งมอบบริการให้แก่ลูกค้า โดยอาจจัดให้คนกลุ่มนี้มีสถานะเป็นเหมือนพนักงานของบริษัทที่จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงเรื่องอัตราค่าจ้างและสวัสดิการต่างๆ
Rishad Premji ประธานบริษัท Wipro ผู้ให้บริการไอทีรายใหญ่ของอินเดีย ไปพูดในงานสัมมนาผู้บริหาร AIMA โดยพูดถึงประเด็นการที่พนักงานไปรับงานนอก (moonlighting) ว่าช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเขาไล่พนักงานออกไปแล้วถึง 300 ฐานไปรับงานนอกจากบริษัทคู่แข่ง
ตัว Premji เคยทวีตถึงเรื่องนี้ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ระบุว่าการรับงานนอกเป็นการโกง (cheating) จนกลายเป็นการเปิดประเด็นว่าตัว Premji เองก็ทำงานหลายองค์กรไปพร้อมกัน แม้ว่าองค์กรส่วนมากจะเป็นบริษัทในเครือของ Wipro เอง และอีกส่วนเป็นองค์กรภายใต้มูลนิธิ Azim Premji Foundation ที่สร้างจากเงินบริจาคของ Azim Premji ผู้ก่อตั้ง Wipro ผู้เป็นพ่อของ Rishad Premji
ไมโครซอฟท์ยื่นเอกสารประจำปีส่ง ก.ล.ต. สหรัฐ (ตามกฎของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์) เผยจำนวนพนักงานเต็มเวลา ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 221,000 คน (ไม่นับเอาท์ซอร์ส) เพิ่มขึ้นจากรอบการส่งเอกสารของปีที่แล้ว 40,000 คน หรือมีจำนวนพนักงานเพิ่มราว 22% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา
มีรายงานจาก Reuters อ้างเอกสารภายในของอินเทล ระบุว่าบริษัทแจ้งพนักงาน ให้หยุดการจ้างพนักงานใหม่รวมทั้งตำแหน่งที่เปิดรับแล้วทั้งหมดชั่วคราว มีผลเฉพาะฝ่าย Client Computing ที่ดูแลธุรกิจของพีซีเดสก์ท็อปและโน๊ตบุ๊ค บางตำแหน่งอาจกลับมาเปิดให้รับคนได้ใน 2 สัปดาห์ หากมีความจำเป็น
ตัวแทนของอินเทลชี้แจงรายงานข่าวดังกล่าวว่า บริษัทยังคงอยู่ในแผนงานเพื่อสร้างการเติบโตระยะยาว ในตอนนี้การโฟกัสที่ค่าใช้จ่ายและลำดับความสำคัญ จะช่วยบริษัทท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนสูง
ปัจจัยสำคัญน่าจะมาจากข้อมูลภาพรวมตลาดพีซีของปี 2022 ซึ่งคาดว่าจะเติบโตชะลอตัวลง ทั้งจากผลกระทบในยูเครน ตลอดจนการเปิดเมืองหลังการระบาดของโควิด
ไมโครซอฟท์ประกาศปรับนโยบายการจ้างงาน โดยระบุว่าเป็นการปรับความสัมพันธ์กับพนักงาน ได้แก่ ยกเลิกข้อกำหนดห้ามทำงานกับคู่แข่ง, ยกเลิกบังคับรักษาความลับในข้อตกลงเมื่อเกิดกรณีพิพาท, เพิ่มความโปร่งใสในการจ่ายค่าตอบแทน, เพิ่มการตรวจสอบสิทธิพลเมืองภายในองค์กร
ประกาศครั้งนี้ระบุว่าแม้สัญญาจ้างงานของไมโครซอฟท์จะมีเงื่อนไขการห้ามแข่งขันมานานแล้ว แต่บริษัทก็ไม่สนับสนุนให้ใช้มาดึงตัวพนักงานไม่ให้ย้ายงาน และที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยได้บังคับใช้ข้อตกลงนี้นัก แต่กลับสร้างความไม่สบายใจให้พนักงานโดยไม่จำเป็น หลังจากนี้ข้อตกลงเหล่านี้จะถูกยกเลิกให้กับพนักงานใหม่และจะไม่นำมาบังคับใช้กับพนักงานเดิม แต่ยกเว้นพนักงานระดับสูงเช่นผู้บริหารและพาร์ทเนอร์เท่านั้น
ไมโครซอฟท์เป็นบริษัทล่าสุดที่มีข่าวชะลอการจ้างพนักงานใหม่ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในช่วงนี้
ข้อมูลนี้มาจากอีเมลภายในของ Rajesh Jha ผู้บริหารตำแหน่ง Executive Vice President ที่ส่งหาพนักงาน (หลุดออกมายัง Bloomberg) ระบุว่าไมโครซอฟท์จะชะลอการจ้างพนักงานในทีม Windows, Office, Teams แต่นโยบายนี้ไม่กระทบกับทีมอื่น โฆษกของไมโครซอฟท์ยืนยันข่าวนี้และบอกว่าเป็นการจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสม
สหรัฐฯ เตือนคนไอทีเกาหลีเหนือปลอมเป็นคนชาติอื่น รับงานไอที เขียนแอปมือถือ, แพลตฟอร์มคริปโต, ซัพพอร์ต
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ (Department of Treasury) ออกประกาศแจ้งเตือนว่าเกาหลีเหนือกำลังส่งออกแรงงานไอทีนับพันคน รับงานบริษัทต่างชาติโดยปิดบังสัญชาติที่แท้จริงของคนทำงานเพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรสหรัฐฯ
แรงงานไอทีเหล่านี้มักมีฐานรับงานอยู่นอกเกาหลีเหนือ เช่น จีน, รัสเซีย, บางส่วนอยู่ในแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอาศัยการปลอมแปลงเอกสารประจำตัวว่าเป็นคนจีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังตั้งบริษัทนอกเกาหลีเหนือเพื่อบังหน้า